fbpx
Homeผู้หญิง5 อาหารแก้ปวดประจำเดือน บรรเทาอาการได้เร็ว แถมดีต่อสุขภาพ

5 อาหารแก้ปวดประจำเดือน บรรเทาอาการได้เร็ว แถมดีต่อสุขภาพ

ประจำเดือนเป็นหนึ่งสิ่งที่คุณผู้หญิงทุกท่านต้องเผชิญ และคุณผู้หญิงบางท่านก็มีอาการก่อน ระหว่างและหลังมาประจำเดือนไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลัง อาการปวดเอว อาการปวดศีรษะ หรือแม้แต่อาการปวดท้องประจำเดือนซึ่งล้วนเป็นอาการที่คุณผู้หญิงทุกท่านไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตนเองทั้งนี้ก็เนื่องมาจากเมื่อมีอาการดังกล่าวขึ้นก็จะทำให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ สำหรับบทความนี้เราขอพาคุณผู้หญิงทุกท่านไปพบกับโภชนาการที่เหมาะสมเพื่อช่วยลดและบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ซึ่งก็คือ 5 อาหารแก้ปวดประจำเดือน รวมไปถึงอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงอีกด้วย

แนะนำ 5 อาหารแก้ปวดประจำเดือน ที่ควรกิน

เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 5 อาหารแก้ปวดประจำเดือนที่ไม่ควรพลาดหากไม่อยากมีอาการปวดที่รุนแรงหรือยาวนาน เพราะอาหารแก้ปวดประจำเดือนเหล่านี้ไม่เพียงช่วยแก้อาการปวดแต่ยังป้องกันอาการปวดที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย โดยอาหารแก้ปวดประจำเดือนมีดังนี้

1.ขิง เป็นหนึ่งในสมุนไพรธาตุร้อนที่เหมาะสำหรับการบริโภคในช่วงที่มีประจำเดือนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการแปรรูปเป็นเครื่องดื่มอย่างน้ำขิงร้อน น้ำขิงน้ำผึ้งมะนาว หรือจะแปรรูปเป็นขนมหวานอย่างเต้าฮวยน้ำขิงหรือบัวลอยน้ำขิงก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการบริโภคขิงที่ทำให้เมนูน้ำขิงไม่น่าเบื่ออีกต่อไป หรือ จะเป็นการแปรรูปน้ำขิงเป็นอาหารจานหลักก็สามารถทำได้ทั้งไก่ผัดขิง หรือ เมนูปลากระพงนึ่งซีอิ๊วที่มีขิงเป็นเครื่องเคียง โดยขิงก็ช่วยบรรเทาอาการปวดที่เกิดขึ้น ลดอาการคลื่นไส้ ลดอาการท้องเสียที่คุณผู้หญิงหลายท่านมักประสบเมื่อมาประจำเดือนและช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายได้อีกด้วย

2.ใบโหระพาซึ่งเป็นผักที่จัดเป็นอาหารแก้ปวดประจำเดือนชั้นเลิศ ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากใบโหระพานั้นมีปริมาณของกรดคาเฟอิกที่เปรียบเสมือนยาแก้ปวดตามธรรมชาติ ซึ่งคุณผู้หญิงสามารถบริโภคใบโหระพาโดยการนำมาปรุงเป็นอาหารหรือการดื่มน้ำใบโหระพาก็สามารถช่วยบรรเทาปวดประจำเดือนได้เป็นอย่างดี

3.มะละกอกับผลไม้พื้นบ้านที่สามารถหารับประทานได้ค่อนข้างง่าย และด้วยคุณสมบัติที่สามารถบรรเทาอาการปวดที่เกิดขึ้นในแต่ละรอบเดือนของคุณผู้หญิงได้ รวมถึงยังสามารถป้องกันอาการปวดของคุณผู้หญิงได้อีกด้วย นอกจากคุณสมบัติที่โดดเด่นในการแก้เรื่องการปวดท้องของคุณผู้หญิง มะละกอยังเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยแคโรทีนอย วิตามิน รวมถึงธาตุอาหารอีกหลากหลายชนิดที่จะมาช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย

4.ดาร์กช็อกโกแลตกับของหวานที่มีรสชาติถูกปากถูกใจคุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่านกันอย่างแน่นอน ในส่วนของดาร์กช็อกโกแลตนี้จะอุดมไปด้วยธาตุเหล็กที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของเลือด เมื่อมีประจำเดือนปริมาณเลือดความเข้มของเม็ดเลือดก็จะเจือจางได้เนื่องมาจากการสูญเสียเลือดไปกับเลือดประจำเดือน การบริโภคดาร์กช็อกโกแลตจึงเป็นการทดแทนส่วนของธาตุเหล็กที่สูญเสียไปได้อีกด้วย

5.อาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 6 อย่างธัญพืช หรือ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ที่จะช่วยลดอาการปวดประจำเดือนของคุณผู้หญิงได้

อาหารที่ควรเลี่ยงเมื่อมีประจำเดือน

เมื่อเราทราบแล้วว่าอาหารแก้ปวดประจำเดือนมีอะไรมาจากหัวข้อก่อนหน้า สำหรับหัวข้อนี้เราก็จะพาไปดูกันว่าอาหารอะไรบ้างที่ควรเลี่ยงเมื่อมีประจำเดือน ซึ่งมีดังนี้

1.อาหารแปรรูปไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แฮม หมูยอ แหนม ปูอัด หรือโบโลน่าที่มีส่วนประกอบเป็นโซเดียมในปริมาณที่สูง ซึ่งจะทำให้สมดุลชีวเคมีในร่างกายของคุณผู้หญิงเกิดความผิดปกติแล้วเป็นการเพิ่มปัจจัยที่ทำให้เกิดการปวดในช่วงที่มาประจำเดือน

2.อาหารที่มีรสชาติเค็ม เพราะเมื่อคุณผู้หญิงบริโภคอาหารที่มีรสเค็มจะทำให้ร่างกายของคุณผู้หญิงเกิดสภาวะบวมน้ำ และ สภาวะท้องอืด ทำให้เสี่ยงต่อการปวดในช่วงของการมาประจำเดือนได้

3.เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ Alcohol เพราะจะทำให้คุณผู้หญิงตกอยู่ในสภาวะของความดันโลหิตต่ำได้ ซึ่งก็เสี่ยงต่ออาการเวียนศีรษะ หรือ อาการเป็นลมได้

4.อาหารที่มีรสชาติจัดจ้าน เพราะในช่วงที่มาประจำเดือน คุณผู้หญิงมักมีอาการท้องเสียร่วมด้วย รวมไปถึงเมื่อคุณผู้หญิงถ่ายอุจจาระบ่อยจากการท้องเสียก็จะเกิดภาวะเสี่ยงในเรื่องของสุขอนามัยได้ เพราะคุณผู้หญิงยังคงมาประจำเดือนอยู่ด้วย นอกจากนี้ก็จะเสียงต่อสภาวะขาดน้ำได้ เพราะคุณผู้หญิงต้องสูญเสียน้ำจากเลือดประจำเดือนอยู่แล้ว หากคุณผู้หญิงมีอาการท้องเสียร่วมด้วยก็จะเสียน้ำจากการอุจจาระร่วมอีก การสูญเสียน้ำถึงสองทางนี้ก็จะนำมาซึ่งอันตรายถึงขั้นช็อกได้เลย

5.เนื้อแดงซึ่งเป็นอาหารที่มีปริมาณของ Prostaglandin ที่สูงมาก โดย Prostaglandin ในเนื้อแดงนี้ก็จะไปปะปนกับชีวเคมีภายในร่างกายของคุณผู้หญิง ทำให้คุณผู้หญิงมี Prostaglandin ในปริมาณที่สูงตามไปด้วย ซึ่ง Prostaglandin นี้เป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการบีบตัวของมดลูก ในสภาวะที่มดลูกบีบตัวปกติก็มักไม่เกิดอาการปวดต่าง ๆ แต่เมื่อใดก็ตามที่มีปริมาณของ Prostaglandin ที่สูง มดลูกก็จะบีบตัวรุนแรงขึ้นจนทำให้เกิดอาการปวดตามมานั่นเอง

จากบทความข้างต้นคุณผู้หญิงทั้งหลายคงจะได้พบกับโภชนาการที่เหมาะสมทั้งช่วงก่อน ระหว่างและหลังมาประจำเดือนซึ่งสามารถช่วยให้คุณผู้หญิงทั้งหลายมีอาการปวดในช่วงของการมาประจำเดือนที่ลดลง จนกระทั่งถึงไม่ปวดเลย โดยโภชนาการเหล่านี้ก็มีทั้ง 5 อาหารแก้ปวดประจำเดือน รวมถึงอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง ซึ่งอาหารที่แนะนำไปในแต่ละประเภทคุณผู้หญิงก็ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมส่วนบุคคลในส่วนของอาการแพ้อาหารประกอบด้วย

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular