fbpx
Homeการตั้งครรภ์การนับอายุครรภ์ ทำได้กี่วิธี มีผลลัพธ์ที่แม่นยำมากแค่ไหน

การนับอายุครรภ์ ทำได้กี่วิธี มีผลลัพธ์ที่แม่นยำมากแค่ไหน

เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ การนับอายุครรภ์ เป็นสิ่งที่คุณแม่จำเป็นจะต้องใส่ใจและให้ความสำคัญ เพราะหากรู้อายุครรภ์จะได้รู้ถึงพัฒนาการของทารกในครรภ์ รวมถึงโภชนาการที่คุณแม่จะต้องบำรุงและสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงด้วย  นอกจากนี้การนับอายุของครรภ์ยังช่วยให้คุณหมอวางแผนการดูแลสุขภาพให้กับคุณแม่และทารกในครรภ์ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งการนับอายุของครรภ์จะต้องทำอย่างไร มีกี่วิธีและวิธีไหนแม่นยำเชื่อถือได้มากที่สุด วันนี้เราจะพาคุณแม่ไปดูกัน

การนับอายุครรภ์ มีกี่วิธี อะไรบ้าง

เชื่อว่าคุณแม่หลายคนที่ตั้งครรภ์ แต่ยังไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าตั้งครรภ์ได้กี่เดือนหรือกี่สัปดาห์แล้ว โดยเฉพาะคุณแม่ที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีการคลาดเคลื่อนเรื่อยๆ  การนับอายุของครรภ์นั้นจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก สำหรับการนับอายุครรภ์ มีด้วยกัน 4 วิธี ซึ่งแต่ละวิธีนั้นก็จะให้ความแม่นยำที่แตกต่างกัน และอาจมีคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อยดังนี้

1.การนับอายุครรภ์จากประจำเดือน

การนับอายุครรภ์จากประจำเดือนนั้นเป็นการนับที่คุณแม่สามารถทำได้ง่ายๆ สำหรับคุณแม่ที่ประจำเดือนมาปกติและจำวันที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายได้ โดยนับได้ดังนี้

  • นับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายเป็นวันเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ และกำหนดคลอดให้นับไปอีก 280 วัน หรือประมาณ 40 สัปดาห์
  • โดยสูตรการนับของ Naegale’s Rule คือให้นับวันแรกที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้าย (LMP) –3 เดือน + 7 วัน ยกตัวอย่างเช่นวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายคือวันที่ 1 มกราคม กำหนดคลอดคือ 1 มกราคม – 3 เดือน + 7 วัน = วันที่ 8 ตุลาคม คือวันที่ครบกำหนดคลอด

2.นับด้วยการอัลตร้าซาวด์

นับอายุครรภ์ ด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound) คลื่นความถี่สูง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถบอกอายุครรภ์ของคุณแม่ได้ และเป็นวิธีที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน วิธีนี้สามารถบอกอายุครรภ์ได้ตั้งแต่อายุครรภ์น้อยๆ จนถึงอายุครรภ์มาก โดยแพทย์ที่ตรวจโดยเครื่องอัลตร้าซาวด์แม้เพียงแค่ครั้งเดียวก็จะสามารถบอกอายุครรภ์ได้ และค่อนข้างที่จะแม่นยำมากที่สุด

3.นับจากขนาดของยอดมดลูก

การนับอายุครรภ์ จากยอดมดลูก โดยการนับจากยอดมดลูกและสัดส่วนหน้าท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์ โดยแบ่งระยะสะดือกับกระดูกหัวหน่าวเป็นส่วนเท่าๆ กันและแบ่งระยะสะดือกับลิ้นปี่เป็น 4 ส่วน ซึ่งความสูงของยอดมดลูกของคุณแม่ในแต่ละช่วงอายุครรภ์จะมีความสัมพันธ์กันดังนี้

  • อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ยอดมดลูกของคุณแม่จะสูงประมาณ 1/3 เหนือกระดูกหัวหน่าว
  • อายุครรภ์ 16 สัปดาห์ ยอดมดลูกของคุณแม่จะสูงประมาณ 2/3 เหนือกระดูกหัวหน่าว
  • อายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ยอดมดลูกของคุณแม่จะอยู่ระดับสะดือ
  • อายุครรภ์ 24 สัปดาห์ ยอดมดลูกของคุณแม่จะสูงกว่าระดับสะดือเล็กน้อย
  • อายุครรภ์ 28 สัปดาห์ ยอดมดลูกของคุณแม่จะสูงประมาณ 1/4 เหนือระดับสะดือ
  • อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ ยอดมดลูกของคุณแม่จะสูงประมาณ 2/4 เหนือระดับสะดือ
  • อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ ยอดมดลูกของคุณแม่จะสูงประมาณ 3/4 เหนือระดับสะดือ

4.นับจากลูกดิ้นเป็นครั้งแรก

การนับอายุครรภ์จากการดิ้นของลูกครั้งแรก ให้เริ่มนับว่าลูกดิ้นวันไหน โดยนับมาจนถึงปัจจุบันที่กำลังคำนวณ จากนั้นให้นำไปหารด้วย 7 คุณแม่ก็จะได้อายุครรภ์เป็นจำนวนสัปดาห์ แล้วนำมาบวกด้วยตัวเลขดังนี้ โดยคุณแม่ท้องแรกให้บวกด้วย 18 -20 สัปดาห์ สำหรับคุณแม่ท้อง 2 ไปแล้วให้บวกอายุครรภ์ 16 – 18 สัปดาห์ ก็จะได้อายุครรภ์ของลูก แต่วิธีนี้เป็นวิธีที่คลาดเคลื่อนได้มากที่สุด จึงไม่นิยมใช้แล้วในปัจจุบัน

นับอายุครรภ์แบบไหน แม่นยำที่สุด

การนับอายุครรภ์ ที่แม่นยำและนิยมมากที่สุดในปัจจุบันนั่นก็คือ การนับจากเครื่องอัลตร้าซาวด์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นวิธีนับอายุครรภ์ ที่แม่นยำมากที่สุด วิธีอื่นๆ อาจจะคลาดเคลื่อนได้ แต่การนับอายุครรภ์ ด้วยคลื่นความถี่สูงอย่างเครื่องอัลตร้าซาวด์ จะสามารถ นับอายุครรภ์ ได้แม่นยำและคลาดเคลื่อนน้อยมากที่สุดนั่นเอง

การเช็คระยะเวลาตั้งครรภ์สำคัญแค่ไหน

การนับอายุครรภ์นั้นสำคัญมากสำหรับคุณแม่ เพราะหากรู้อายุครรภ์จะได้รู้ถึงพัฒนาการ รวมถึงวิธีบำรุงและหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้ครรภ์เป็นอันตรายได้ อย่างเช่น ในช่วงครรภ์อ่อนๆ ควรหลีกเลี่ยงที่จะยกของหนักหรือทำงานหนักมากเกินไป เพราะเสี่ยงที่จะทำให้แท้งได้นั่นเอง และนี่คือข้อดีของการนับอายุครรภ์สำหรับคุณแม่

  • การนับอายุครรภ์จะทำให้คุณแม่รู้กำหนดคลอด ได้อย่างแม่นยำ
  • การนับอายุครรภ์ช่วยให้คุณแม่รู้ว่าสิ่งไหนควรหรือไม่ควรในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ในช่วงอายุครรภ์นั้นๆ
  • นับอายุครรภ์ จะบอกถึงความสมบูรณ์ของทารกในครรภ์ และแพทย์จะได้วางแผนในการดูแลครรภ์ได้อย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงอายุครรภ์ของคุณแม่นั่นเอง
  • การนับอายุครรภ์ ยังช่วยให้คุณแม่หลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ อย่างเช่น ภาวะเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ตลอดจนภาวะครรภ์เป็นพิษด้วย

สำหรับคุณแม่ หากรู้ว่ากำลังตั้งครรภ์คุณแม่ควรรีบไปฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเหมาะสม และการนับอายุครรภ์ นั้นมีประโยชน์มาก เพราะจะช่วยให้คุณแม่รู้กำหนดคลอด รวมถึงคุณแม่จะได้คอยระมัดระวังตลอดการตั้งครรภ์จนคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง

เรื่องอื่นๆ ที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular