ภาวะทารกในครรภ์บวมน้ำ คือ การที่มีของเหลวอยู่ในอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายของทารกในครรภ์มารดา เช่น น้ำในปอด น้ำในช่องท้อง น้ำในเยื่อหุ้มหัวใจ น้ำในผิวหนัง ในบางครั้งอาจพบร่วมกับการบวมน้ำของรก และสายสะดือ โดยที่รกอาจบวมบางส่วนหรือทั้งหมด หรือไม่บวมก็ได้ ทารกบวมน้ำ อาจเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงของการตั้งครรภ์ พูดง่าย ๆ คือ สามารถเกิดได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ไตรมาสแรกจนถึงครรภ์ครบกำหนดเลยทีเดียว
สาเหตุที่ทำให้ทารกบวมน้ำมี 2 ลักษณะ ดังนี้
1.ทารกบวมน้ำที่เกิดจากปฏิกิริยาอิมมูน (immune hydrops fetalis; IHF)
เกิดจากภาวะที่มีปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันในกระแสเลือด ซึ่งมาจากของมารดากับตัวเม็ดเลือดแดงของทารก ทำให้ทารกมีภาวะซีด และเกิดปัญหาภาวะบวมน้ำตามมา ส่งผลให้เกิดภาวะโปรตีนในกระแสเลือดต่ำ และภาวะหัวใจวาย
2.ทารกบวมน้ำที่ไม่เกี่ยวกับปฏิกิริยาอิมมูน (non-immune hydrops fetalis; NIHF)
เกิดจากความผิดปกติของทารกเอง เช่น โรคหัวใจพิการ cystic hygroma หรือ โครโมโซมของทารกผิดปกติ ในบางรายก็อาจเกิดจากการติดเชื้อจากในครรภ์
อาการบวมน้ำในทารกเกิดจากการไม่สมดุลกันของปริมาณน้ำในกระแสเลือด เนื่องจากมีการลดลงของการไหลเวียนเลือดที่ตับ ส่งผลให้การสร้างอัลบูมินจากตับลดลง ภาวะที่มีอัลบูมินต่ำลงจะทำให้เพิ่มการไหลเวียนของเหลว แต่ลำพังภาวะอัลบูมินต่ำเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถทำให้เกิดภาวะทารกบวมน้ำได้ แต่จะต้องมีการสะสมของของเหลวแบบผิดปกติอย่างน้อย 2 แห่งขึ้นไปในทารก เช่น บวมตามผิวหนังทั่วตัว บวมน้ำในช่องท้อง เป็นต้น
อาการบวมน้ำจะเกิดขึ้นกับร่างกายของทารกดังนี้
- บวมตามผิวหนังทั่วตัว : คุณหมอสามารถตรวจสอบได้จากความหนาของผิวหนัง ศีรษะ และหน้าอก
- บวมน้ำในช่องท้อง : ถ้ามีอาการบวมน้ำในท้องจะเห็น ลำไส้ ขอบของตับ กระเพาะปัสสาวะ ม้าม และกระบังลมของทารกได้ชัดเจน
- น้ำคั่งที่เยื่อหุ้มหัวใจ : เกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวจากการทำงานของหัวใจผิดปกติ บางรายงานพบว่าเป็นอาการแสดงอย่างแรกของภาวะทารกในครรภ์บวมน้ำ ที่มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของหัวใจแต่กำเนิด
- บวมน้ำในช่องปอด : อาจมีอาการบวมน้ำทั้ง 2 ปอดหรือเพียงข้างใดข้างหนึ่ง การบวมน้ำในช่องปอดทำให้เด็กเสียชีวิตมากที่สุด
- รกหนาผิดปกติ : อาการนี้พบบ่อยในทารกในครรภ์ สามารถทราบได้ว่ามีอาการโดยการตรวจสอบรก ถ้าหนาเกิน 6 เซนติเมตร ขึ้นไปจะวินิจฉัยว่า มีภาวะบวมน้ำค่ะ
- ภาวะน้ำคร่ำน้อย : ถ้าพบว่าเด็กในครรภ์มีอาการบวมน้ำ ส่วนมากจะมีภาวะน้ำคร่ำน้อยตามไปด้วย ซึ่งภาวะน้ำคร่ำน้อยนี้สามารถเกิดได้ในระยะต่างๆของโรค
- ตับ ม้าม โต : เกิดจากการสร้างเม็ดเลือดแดงนอกไขกระดูกเพิ่มขึ้น เพื่อการตอบสนองภาวะเลือดของทารก
อาการบวมน้ำของทารกในครรภ์ ถือว่าเป็นภาวะที่เสี่ยงและอันตรายมากสำหรับทารกในครรภ์แม่ คุณแม่ที่มีอาการนี้บางคน ต้องหยุดการตั้งครรภ์เมื่อตรวจพบว่าทารกในครรภ์มีอาการบวมน้ำขั้นรุนแรง ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะดังกล่าว คุณแม่ต้องไปพบหมอทุกครั้งตามนัด เพราะคุณหมอจะประเมินทารกในครรภ์ของคุณแม่ทุกครั้งว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ