2 ชีวิตที่อยู่ในร่างเดียวกัน ย่อมต้องแบ่งปันทุกอย่างให้เท่าเทียม ปกติคุณแม่ที่ทานน้อยอาจต้องเพิ่งปริมาณการรับประทานอาหารให้มากยิ่งขึ้น เพราะสารอาหารที่ได้รับจะถูกแบ่งไปใช้ ในการพัฒนาร่างกายและเสริมความแข็งแรงให้กับลูกในครรภ์ โดยเฉพาะสารอาหารอย่างโปรตีน แคลเซียม ที่เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาร่างกาย กระดูกของทารก คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องทานเพิ่มเป็นสองเท่า เพื่อลูกน้อยและตัวคุณแม่เอง หากคุณแม่ทานอาหารตามปริมาณปกติแล้ว อาการตะคริวบริเวณน่องขา หรือตะคริวส่วนอื่นได้ตามมาแน่นอน
อาการตะคริวที่เกิดกับคุณแม่ตั้งครรภ์
สาเหตุเกิดจากปริมาณแคลเซียม และแมกนีเซียมไม่เพียงพอ เพราะการรับประทานอาหารในปริมาณเท่าเดิม ไม่เพียงพอต่อความต้องการของ 2 ชีวิต ทารกในครรภ์จะนำสารอาหารเหล่านี้มาเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก ในเมื่อคุณทานอาหารปริมาณเท่าเดิม สารอาหารจะถูกแบ่งไป ทำให้ทารกและคุณแม่ได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอนั่นเอง
ปกติแล้วสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ต้องได้รับแคลเซียมในประมาณ 1,200 มิลลิกรัม/วัน เพื่อช่วยในการสร้างกระดูกและฟันให้กับลูกในท้อง แต่หากได้รับไม่เพียงพอลูกจะดึงแคลเซียมจากแม่ ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับฟัน และทำให้เป็นตะคริวได้บ่อย รวมถึงหากได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอ ในปริมาณ 300 มิลลิกรัม/วันด้วย
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเลือกอาหารที่มีแคลเซียมและแมกนีเซียมมากขึ้น เพราะสาเหตุของความไม่สมดุลของระดับแร่ธาตุสองตัวนี้เป็นสาเหตุหลักของการหดเกร็งกล้ามเนื้อที่ผิดจังหวะ อาหารที่มีแคลเซียมสูง ได้แก่ นม โยเกิร์ต ผักใบเขียวเข้ม กุ้งแห้ง ปลาเล็กปลาน้อย เต้าหู้ ถั่วเมล็ดแห้ง และอาหารที่มีแมกนีเซียมสูง ได้แก่ ธัญพืช ข้าวกล้อง ถั่วเมล็ดแห้ง ผักใบเขียว เมล็ดทานตะวัน ก็เลือกทานในปริมาณที่เหมาะกับความต้องการของร่างกายคือ 4 – 1 (แคลเซียม 4 แมกนีเซียม 1) อาการตะคริว ที่เกิดขึ้นจะลดลง
นอกจากแคลเซียมและแมกนีเซียมที่ได้รับแล้ว คุณแม่ยังได้โปรตีนที่สำคัญต่อการสร้างกล้ามเนื้อของทารกในครรภ์ด้วย และยังช่วยเรื่องระบบขับถ่ายจากการรับประทานผักใบเขียวที่มากขึ้น
การเลือกทานอาหารที่จำเป็นต่อทารกในครรภ์ จะช่วยในการพัฒนาส่วนต่างของทารกในครรภ์และยังช่วยบำรุงสุขภาพของคุณแม่ให้ดีขึ้น เรียกได้ว่าเป็นประโยชน์ทั้งขึ้นและร่องเลยทีเดียวค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ