คุณแม่ที่มีลูกผู้ชายบางคน เป็นกังวลว่าทำไมลูกไม่ยอมพูดเสียที หรือพูดได้เพียงคำสั้น ๆ ประโยคสั้น ๆ ทั้ง ๆ ที่เพื่อนในวัยเดียวกัน โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง มีพัฒนาการทางภาษาที่ดีกว่า พูดจาฉอเลาะ ต่อปากต่อคำ สามารถบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ได้แล้ว พอปรึกษาผู้ใหญ่ ก็มักจะบอกว่า เด็กผู้ชายปากหนัก พูดช้ากว่าเด็กผู้หญิงเป็นธรรมดา ต้องไปหากบมาตบปาก จะได้พูดได้เร็วขึ้น เรื่องนี้เท็จจริงเป็นอย่างไรกันนะ
เด็กผู้ชายพูดช้ากว่าเด็กผู้หญิง จริงหรือ?
จากการศึกษาของ Dr.Miriam Stoppard ราชบัณฑิต สำนักแพทยศาสตร์ ซึ่งเป็นนักเขียนเรื่องราวแม่และเด็กที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสหราชอาณาจักร พบว่าขนาดสมองของทารกแรกเกิดเพศชายมีน้ำหนักมากกว่าขนาดสมองของทารกเพศหญิง 10-15 เท่า แต่ระบบการทำงานสมองทั้งสองซีกของทารกเพศหญิงจะพัฒนาได้มากกว่า เร็วกว่าและดีกว่าทารกเพศชาย
เยื่อหุ้มสมองของเด็กผู้หญิงพัฒนาเร็วกว่าเด็กผู้ชาย รวมถึงสมองซีกซ้าย ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระบบความคิดเติบโตเร็วกว่า ทารกเพศหญิงจะใช้สมองทั้ง 2 ซีกในการทำงานเชื่อมโยงกันอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เด็กผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเก่งเรื่องภาษา และการอ่านมากกว่าเด็กผู้ชาย เพราะสมองทั้ง 2 ซีก ของทารกเพศหญิงพัฒนาเร็วกว่านั่นเองค่ะ
ดังนั้นคงไม่แปลก หากเด็กผู้หญิงจะมีพัฒนาการทางด้านภาษาที่ดีกว่า พูดได้ไวกว่า แต่เด็กผู้ชายก็ไม่ใช่ทุดคนที่จะมีพัฒนาการทางด้านภาษาที่ช้า ทั้งนี้เพราะพัฒนาการทางด้านภาษาของลูก มีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกันค่ะ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม หากเด็กอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่มีคนพูดคุย ส่งภาษาด้วยตลอด คุณพ่อคุณแม่พูดคุยกับลูกบ่อย ๆ ก็จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางด้านภาษาให้เร็วขึ้นได้ด้วย หรือหากเด็กมีปัญหาทางด้านการได้ยินเสียง พัฒนาการด้านภาษาของเขาก็จะมีปัญหาไม่เป็นไปตามวัย เป็นต้น
เด็กที่มีปัญหาด้านการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชายก็ตาม หากเมื่อถึงอายุ 2 ขวบแล้วยังไม่สามารถพูดเป็นคำ ที่มีความหมายได้ถือว่ามีพัฒนาการทางด้านภาษาที่ผิดปกติค่ะ จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดและหาวิธีการแก้ไขนะคะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ