fbpx
Homeรีวิวน้ำมันปลาคนท้อง ยี่ห้อไหนดี? แม่กินแล้วดีต่อสุขภาพครรภ์

น้ำมันปลาคนท้อง ยี่ห้อไหนดี? แม่กินแล้วดีต่อสุขภาพครรภ์

ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่ต่างก็หาอาหารมาบำรุงครรภ์ เพื่อให้ทารกเจริญเติบโตแข็งแรง โดยน้ำมันปลาคนท้อง ก็เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่คุณแม่ต่างนึกถึง เพราะมีสรรพคุณในการบำรุงสมองของลูกน้อย ดังนั้นเมื่อเลือกที่จะบำรุงแล้ว ก็จำเป็นที่จะต้องเลือกยี่ห้อที่ดีที่สุด ซึ่งมียี่ห้อไหนบ้างที่เหมาะสำหรับคนท้อง มาดูกันเลย

น้ำมันปลาคนท้อง ยี่ห้อไหนดี

เพื่อให้ร่างกายได้รับกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า3 ซึ่งมีDHA ที่สำคัญต่อการพัฒนาระบบประสาท และการมองเห็นของทารกในครรภ์ คุณแม่จึงควรทานปลาทะเลเป็นประจำ แต่ถ้าคิดว่าร่างกายได้รับไม่เพียงพอ คุณแม่ก็สามารถกินน้ำมันปลาเสริมได้ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ผลิตออกสู่ท้องตลาดหลายยี่ห้อให้คุณแม่ได้เลือก โดยมียี่ห้อที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

1.ยี่ห้อ Blackmores 

อาหารเสริมที่ไม่ใช่เพียงแค่ให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 แต่ยังเป็นวิตามินรวม ที่มีวิตามินอยู่ถึง 9 ชนิด และแร่ธาตุต่างๆที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น ไอโอดีน เหล็ก กรดโฟลิค สังกะสี และแคลเซียม จึงเหมาะกับคนท้อง นอกจากนี้ยังกินง่าย ไม่มีกลิ่นคาว ในราคา599บาท

2.ยี่ห้อ Amsel

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่นำเข้าจากประเทศแคนาดา โดยน้ำมันสกัดจากปลาตัวเล็กที่อยู่ในทะเลลึก จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยว่าปราศจากสารพิษเจือปน ซึ่งนอกจากจะช่วยบำรุงระบบประสาทให้กับลูกน้อยในครรภ์แล้ว ยังดีต่อระบบเลือดของคุณแม่อีกด้วย ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 280บาท

3.ยี่ห้อ Bewel

สำหรับคุณแม่ที่งบน้อย แต่ต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูก ขอแนะนำน้ำมันจากปลาแซลมอน ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า3 EPA และ DHA ที่จะช่วยบำรุงทารกในครรภ์ให้เติบโตแข็งแรง โดยตัวยามีขนาดเล็ก ทำให้กินง่าย ในราคาสบายกระเป๋าเพียง 120บาท

4.ยี่ห้อ Vistra

น้ำมันปลาคนท้องขนาด 1000มิลลิกรัม สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ตั้งแต่3เดือนขึ้นไป จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากโอเมก้า3 EPA และDHA  รวมไปถึงวิตามินE ที่ช่วยควบคุมระดับไตรกลีเซอไรด์ และคลอเรสเตอรอล เป็นแคปซูล กินง่าย ไม่มีกลิ่นคาว พร้อมราคา 349บาท

5.ยี่ห้อ Nutrakal

น้ำมันปลาคนท้องที่สกัดจากปลาแซลมอนประเทศนอร์เวย์ จึงรับประกันถึงคุณภาพที่คุณแม่ตั้งครรภ์และทารกจะได้รับ เช่น ช่วยลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ ป้องกันการอักเสบ บำรุงสมอง แต่เหมาะกับคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 3เดือนขึ้นไป ตัวยามาในรูปของเม็ดเจล กินง่ายเพราะไม่มีกลิ่นคาวปลา ในราคา 345 บาท

6.ยี่ห้อ Nutrilite

ยี่ห้อนี้มีอาหารเสริมหลายตัวที่เป็นที่นิยม และหนึ่งในนั้นก็คือน้ำมันปลาคนท้อง ซึ่งนอกจากจะมีสารอาหารที่สำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ทั้ง กรดไขมันโอเมก้า 3 EPA และ DHA แล้วยังมีวิตามินอีอีกด้วย โดยมาในรูปของแคปซูลเจล ไม่ใส่วัตถุกันเสียและแต่งกลิ่น ทำให้กินง่าย และปลอดภัยกับคนท้อง ส่วนราคาอยู่ที่ 880 บาท

7.ยี่ห้อ Piping Rock 

อาหารเสริมที่รวมเอาสารอาหารที่สำคัญเและจำเป็นสำหรับคนท้องเข้าไว้ด้วยกัน เช่นโอเมก้า EPA และDHA นอกจากนี้ยังมีสารอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น วิตามินรวม โฟเลต ไบโอติน ธาตุเหล็ก สังกะสี จึงเหมาะสำหรับคุณแม่ที่ไม่ต้องการพกยาหลายกระปุก โดยสนนราคาอยู่ที่ 323 บาท

8.ยี่ห้อ Nordic Naturals

น้ำมันปลาคนท้องที่สกัดจากปลาทะเลลึก จึงให้กรดโอเมก้า 3 สูงถึง 830 มิลลิกรัม และ DHA มากถึง 480 มิลลิกรัม โดยได้รับการรับรองจากประเทศสหรัฐอเมริกาถึงความปลอดภัย ทำให้เหมาะกับทุกช่วง ตั้งแต่คุณแม่ที่กำลังเตรียมความพร้อมในการตั้งครรภ์ คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ตลอดจนคุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร โดยมีราคาอยู่ที่ 1,290 บาท

คำแนะนำการกินน้ำมันปลา ขณะตั้งครรภ์

แม้ว่าการกินน้ำมันปลาคนท้อง จะให้ประโยชน์มากมายต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ แต่ควรกินอย่างระมัดระวัง ตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ 

1.กินในปริมาณที่เหมาะสม

ปริมาณของDHAตามที่WHO ให้คำแนะนำ คือคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 25-35สัปดาห์ ควรได้รับ DHA วันละ 100-300มิลลิกรัม ดังนั้นการกินน้ำมันปลาคนท้อง วันละ 1-2 แคปซูลก็เพียงพอที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองและสายตาต่อทารกในครรภ์

2.กินในช่วงเวลาที่ปลอดภัย

เมื่อคุณแม่เริ่มจะกินน้ำมันปลาคนท้อง แนะนำให้กินเมื่อมีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อความปลอดภัยของตัวอ่อนที่สร้างอวัยวะในช่วง 3เดือนแรก และควรหยุดกินน้ำมันปลา ในช่วง 4สัปดาห์ก่อนคลอด เพราะอาจเกิดภาวะเลือดแข็งตัวช้า ในขณะคลอดลูกได้ 

3.อาจเกิดผลข้างเคียง

การทานน้ำมันปลาคนท้อง ทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้อาเจียน และอาจทำให้คุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องอยู่แล้ว มีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีอาการข้างเคียงอื่นๆ เช่น ท้องเสีย เรอบ่อย มีกลิ่นตัวคล้ายกลิ่นปลา ผื่นคัน ดังนั้นถ้าพบความผิดปกติดังกล่าวควรไปปรึกษาแพทย์

4.มีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

ไขมันในน้ำมันจากปลานั้น ที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล และอาจส่งผลทำให้คุณแม่เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้ ดังนั้นคุณแม่ที่มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ควร ปรีกษาแพทย์ก่อนเลือกกินอาหารเสริมตัวนี้

5.โอกาสเสี่ยงต่อลูกที่เกิดมาอาจพิการ

การกินอาหารเสริมใดๆ รวมทั้งน้ำมันปลา ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ทำให้ยาเกิดสะสมภายในร่างกาย ดังนั้น จำเป็นที่คุณแม่ควรสอบถามแพทย์ก่อนที่จะเลือกกินสิ่งใดเข้าไปในร่างกายโดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์นี้ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์ได้

อาหารเสริมทุกตัวมีทั้งคุณประโยชน์และโทษ ซึ่งการจะเลือกซื้อยี่ห้อไหนนั้น ก็ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และเพื่อให้มั่นใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์

เรื่องอื่นๆ ที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular