fbpx
Homeการเลี้ยงลูกสาเหตุที่ทำให้ เด็กขาดความอบอุ่น พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

สาเหตุที่ทำให้ เด็กขาดความอบอุ่น พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

การเลี้ยงดูลูกน้อยอย่างใกล้ชิดในช่วงวัยเด็ก มีความสำคัญต่อจิตใจและความรู้สึกที่ดีต่อลูกเป็นอย่างมาก ซึ่งในวัยเด็กของลูก จะเป็นช่วงวัยที่ซึมซับความรู้สึกต่างๆ ไว้ได้ดีมาก หากลูกได้รับความเอาใจใส่ดูแลจากคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างดี ลูกก็จะได้รับความอบอุ่นจากครอบครัว ซึ่งส่งผลดีต่อสภาพจิตใจ อารมณ์ และความรู้สึกที่ดีของลูกไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ แต่ก็มีเด็กอีกหลายครอบครัว ที่ตกอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ขาดความอบอุ่นจากครอบครัว ทั้งๆ ที่มีคุณพ่อคุณแม่อยู่กันพร้อมหน้า เรามาหาสาเหตุของการที่ทำให้เด็กขาดความอบอุ่นกันดีกว่าว่ามาจากสาเหตุใดได้บ้าง และเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนไม่ควรมองข้าม

เด็กขาดความอบอุ่น เพราะอะไร

เหตุที่ทำให้เด็กขาดความอบอุ่นส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นได้จากสาเหตุต่างๆ ดังนี้

1.ความต้องการที่ไม่ได้รับการสนองอย่างพอใจ

เด็กในวัยทารกส่วนใหญ่จะร้องไห้เมื่อหิว อากาศหนาว หรือร้อนเกินไป เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สนใจเข้าไปดูแล หรืออุ้มขึ้นมา เมื่อเด็กได้รับการตอบสนองจากการเรียกร้องความต้องการภายใน ก็จะทำให้รู้สึกอบอุ่น และนอนหลับอย่างมีความสุขเพราะมีความมั่นใจได้แล้วว่า มีคนดูแลคอยตอบสนองทุกครั้งที่ต้องการ จนทำให้สมองของลูกน้อยหลั่งสารเคมีแห่งความสุขออกมา ซึ่งเป็นผลดีต่อจิตใจ อารมณ์และการเจริญเติบโตของร่างกาย แต่หากในทางกลับกันของครอบครัวที่มักจะปล่อยให้เด็กร้องไห้นานเกินไปบ่อยๆ จึงจะเข้าไปดูแล หรือเด็กบางคนถูกปล่อยให้ร้องไห้นานจนเด็กหยุดไปเอง เมื่อเป็นแบบนี้บ่อยๆ เข้า เด็กซึ่งได้รับการสะสมความเครียดจากการที่ไม่มีคนมาช่วยตอบสนองความต้องการที่ได้สื่อภาษากายออกไปแล้ว จึงทำให้เกิดกระบวนการของความเครียดสะสม อีกทั้งสารเคมีบางอย่างก็ถูกหลั่งออกมามากขึ้น จึงทำให้เกิดคับข้องใจ ที่ไม่ได้รับการตอบสนองตามความต้องการ จึงส่งผลให้สภาพจิตใจของเด็กแย่ลงและมีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจในรูปแบบต่างๆ ตามมา หากเป็นเด็กเล็กมีพฤติกรรมเหล่านี้ ถ้าคุณพ่อคุณแม่มีเวลาก็พอจะดูแลปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ แต่หากเกิดในเด็กโตก็อาจจะต้องใช้เวลานานในการแก้ไขพฤติกรรม หรือบางรายก็แก้ไม่ได้ ซึ่งจะพบได้บ่อยในกรณีที่เด็กขาดความขาดอบอุ่นจะเรียกร้องความสนใจในรูปแบบต่างๆ

2.เด็กถูกทอดทิ้ง

สาเหตุอีกประการหนึ่งที่ทำให้เด็กขาดความอบอุ่น คือการทอดทิ้งเด็กไว้กับปู่ย่าตายาย หรือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งหากผู้เลี้ยงดูไม่ได้เลี้ยงดูเด็กอย่างใกล้ชิดก็อาจทำให้เด็กกลายเป็นเด็กขาดความอบอุ่นได้

วิธีเลี้ยงลูกไม่ให้ขาดความอบอุ่น

การเลี้ยงลูกเพื่อให้มีพัฒนาการที่สมบูรณ์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจที่มีความสุข จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากคุณพ่อคุณแม่ด้วยความรักความอบอุ่น หากเด็กไม่ได้รับความอบอุ่นก็อาจทำให้เกิดปัญหาต่อเด็ก และส่งผลกระทบต่อสังคมในวันข้างหน้าได้ วิธีการเลี้ยงลูกให้ได้รับความอบอุ่น ที่คุณพ่อคุณแม่พึงกระทำควรมีเรื่องใดบ้าง

1.ปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเครื่องสื่อสาร เป็นสิ่งจำเป็นส่วนหนึ่งที่ใช้สำหรับการประกอบอาชีพ แต่ของคุณพ่อคุณแม่รู้จักแบ่งเวลาในการทำงาน และการเลี้ยงลูกไม่ให้ปะปนกับ ก็จะทำให้การเลี้ยงดูลูกที่ปราศจากเครื่องมือสื่อสารเกิดขึ้นได้ ย่อมจะส่งผลดีกับตัวลูก เพราะคุณพ่อคุณแม่จะมีเวลาในการใกล้ชิดกับลูก ได้สอนลูกจากภาษากาย และพฤติกรรมที่ดีของคุณพ่อคุณแม่เอ งซึ่งเด็กจะรับได้จากการเลียนแบบ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถทำกิจกรรมร่วมกับลูกได้มากขึ้น ลูกจะรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมากขึ้นป้องกันปัญหาเด็กขาดความอบอุ่นได้

2.กำจัดอุปสรรคขัดขวางเวลาของครอบครัวออกไป

คุณพ่อคุณแม่บางครอบครัวมีหน้าที่การงานที่ต้องทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่กับงานที่ทำ แต่หากพอมีเวลาว่างก็ควรจัดสรรเวลาให้กับลูกตามสมควร ไม่ควรปล่อยให้ลูกรอคอยคุณพ่อคุณแม่ด้วยความหวังที่เลื่อนลอย โดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีคุณพ่อคุณแม่มาเล่นด้วย ซึ่งอาจทำให้ลูกขาดความอบอุ่นได้

3.วางแผนทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกัน

เมื่อมีเวลาแล้วก็ควรจะใช้เวลาที่อยู่ด้วยกัน หากิจกรรมที่สนุกเหมาะสมกับวัยของลูก ลูกได้เล่นกับคุณแม่ จะเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกสนุกและมีความสุข อีกทั้งยังเป็นความรู้สึกที่ดีที่ประทับอยู่ในความทรงจำของลูกไปอีกนานเท่านาน 

4.โต้ตอบกับเขาเพื่อแสดงถึงความใส่ใจ

เมื่อเวลาอยู่กับลูกแล้ว ควรใส่ใจในคำพูดที่ลูกพูดสนทนาด้วย และตอบโต้ข้อสงสัยของลูกด้วยความจริงใจด้วยความใส่ใจและคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ลืมที่จะถามคำถามต่อจากคำพูดของลูก เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจของพ่อแม่ เช่นเมื่อลูกกลับมาจากโรงเรียนได้มีการเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ลูกได้พบเจอมาในแต่ละวัน คุณพ่อคุณแม่ก็ควรใช้โอกาสนี้ในการที่จะสอบถามถึงความคิดเห็นของลูกที่มีต่อเรื่องนั้นๆ และเมื่อมีโอกาสก็ควรสอดแทรกข้อคิดเห็น และคำสอนไปให้ลูกได้ด้วย

5.พูดคุยภาษาเดียวกันกับลูก

เรื่องอะไรเด็กส่วนใหญ่จะมีเรื่องราวต่างๆ มาเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง หลังจากกลับจากโรงเรียนในช่วงเวลานี้เป็นโอกาสทองที่คุณพ่อคุณแม่จะได้รับฟังเรื่องราวต่างๆ ที่ลูกค้านำมาเล่าให้ฟังบางเรื่องราวก็ของคุณพ่อคุณแม่ครอบครัวมีความกระตือรือร้นที่อยากจะรู้เรื่องราวที่ลูกได้เล่า และแสดงออกถึงความรู้สึกเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับลูก และให้กำลังใจลูก มีความรู้สึกตื่นเต้นกับลูก คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรแสดงอาการเฉยเมย หรือยุ่งอยู่กับการทำงานของตนเองโดยไม่ได้ใส่ใจคำพูดของลูกที่นำมาเล่าให้ฟัง เพราะทำเช่นนี้ก็จะทำให้ลูกมีความรู้สึกถึงการที่คุณพ่อคุณแม่ไม่เห็นคุณค่าในตัวลูก ทุกคำพูดที่ลูกพูดมา คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจ และพูดคุยกันให้เข้าใจเพื่อลูกจะได้ไม่กลายเป็นเด็กขาดความอบอุ่น

6.เต็มอิ่มกับช่วงเวลาแสนสำคัญ

ช่วงเวลาในวัยเด็กของลูกซึ่งเป็นช่วงสั้นๆ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรพลาดที่จะเก็บความประทับใจความน่ารักตามประสาวัยเด็ก ไม่ว่าลูกทำกิจกรรมอะไร คุณพ่อคุณแม่ควรเสียสละเวลาที่จะทุ่มเทกับกิจกรรมของลูก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงหน้าเวทีงานโรงเรียน กิจกรรมกีฬาสี คุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะได้ไปให้กำลังใจ บันทึกภาพ หรือถ่ายรูปของลูกไว้ทุกช่วงเวลา เพราะเมื่อพลาดช่วงเวลาเหล่านี้แล้ว ไม่สามารถหวนคืนกลับมาได้อีก ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกกำลังอยู่ในน่ารักก็ไม่ควรพลาดโอกาสดีๆ เหล่านี้ และยังเป็นช่วงเวลาที่ช่วยให้ลูกได้รับความอบอุ่นอย่างเต็มที่ ไม่ทำให้ลูกกลายเป็นเด็กขาดความอบอุ่นได้นั่นเอง

หากคุณพ่อคุณแม่ได้เลี้ยงดูลูกอย่างห่วงใย และเอาใจใสอย่างดีแล้ว มีการพูดคุยปรึกษาหารือเรื่องราวต่างๆ กันอย่างสม่ำเสมอ เป็นที่ปรึกษาที่ดีกับลูกไม่ดุด่าหรือลงโทษลูกด้วยวิธีรุนแรง ก็จะทำให้ลูกเติบโตด้วยดีไม่มีปัญหาขาดความอบอุ่นแน่นอน

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

       

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular