fbpx
Homeการตั้งครรภ์การคลอดและหลังคลอด8 สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปของ ร่างกายหลังคลอด

8 สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปของ ร่างกายหลังคลอด

รูปร่างของคุณมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้างหลังคลอด คงไม่มีคุณแม่คนไหนที่จะปฏิเสธได้ว่าช่วงเวลาตั้งครรภ์ตลอด 9 เดือน เป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง ทั้งเรื่องรูปร่างและอารมณ์ แต่การเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็อาจส่งผลมาจนกระทั่งหลังคลอดเลยก็มีดังต่อไปนี้

8 สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปของ ร่างกายหลังคลอด

1. เส้นเลือดขอด:

จะมีลักษณะเป็นเส้นสีดำ ๆ ขดไปมาตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย ส่วนมากคุณแม่จะเป็นกันที่ขาค่ะ อาการเส้นเลือดขอดเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอดก็ยังไม่หายสักที อาการเส้นเลือดขอดรักษายากมาก ๆ เลย คุณแม่ต้องทำใจนะคะ

2. เท้าบวม:

อาการเท้าบวมเกิดจากแรงดันในร่างกายจะเป็นตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสสุดท้าย เมื่อคลอดลูกแล้วอาการนี้จะหายไป แต่คุณแม่บางคนยังคงมีอาการนี้อยู่เป็นที่น่ารำคาญสำหรับคุณแม่มากเลยค่ะ

3. สิว:

มักจะเกิดตอนที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ จนหลังคลอดก็ยังไม่หาย สิวเมื่อเป็นแล้วจะหายยาก เมื่อคลอดลูกแล้วคุณแม่สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อรักษาสิวได้มากขึ้น และพยายามอย่าเอามือไปสัมผัสบ่อย ๆ นะคะ อาการนี้ก็จะดีขึ้นเองค่ะ

4. ฝ้า หรือ กะตามหน้า:

อาการนี้เป็นตอนตั้งครรภ์เช่นกัน แต่จะรักษายากกว่าการรักษาสิว คุณแม่อาจต้องใช้เวลานานในการรักษาฝ้า มากกว่าการรักษาสิวอีกนะคะ

5. นิ้วมือใหญ่ขึ้น:

95 เปอร์เซ็นต์ของคุณแม่ตั้งครรภ์นิ้วมือจะใหญ่ขึ้น จนไม่สามารถใส่แหวนแต่งงานได้ แต่พอถึงหลังคลอดนิ้วมือก็ยังเล็กลงเพียงนิดเดียว ไม่เล็กเท่าเดิมจนสามารถใส่แหวนวงเดิมได้เช่นกันค่ะ

6. ขนาดหน้าอกใหญ่ขึ้น: 

ถือเป็นเรื่องปกติค่ะที่หน้าอกจะใหญ่ขึ้น เพราะฮอร์โมนบริเวณนั้นยังทำงานหนักมากขึ้นกว่าช่วงตั้งครรภ์เพราะต้องผลิตน้ำนมไว้ให้ลูกได้กินตลอดเวลานั่นเองค่ะ

7. อาการปวดหลัง:

อาการนี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์เลยค่ะ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์เพราะหน้าท้องใหญ่ขึ้น กระดูกสันหลังก็ต้องรองรับน้ำหนักมากขึ้น หลังคลอดคุณแม่บางคนอาจมีอาการปวดหลังได้เนื่องจาก ตอนตั้งครรภ์กระดูกสันหลังก็เคลื่อนย้ายไปมาและรับน้ำหนักที่มากเป็นเวลานานนั่นเองค่ะ

8. ปวดกระดูกเชิงกรานและมักจะปวดบริเวณเอว:

เพราะตรงส่วนนั้นเคยรองรับน้ำหนักที่มากมาก่อน และ ตอนคลอดกระดูกตรงช่วงนั้นก็ทำงานค่อนข้างหนัก คุณแม่บางคนอาจปวดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งต้องใช้เวลาในการรักษาอาการจึงจะดีขึ้นค่ะ

อาการต่าง ๆ ที่กล่าวมาคุณแม่บางคนก็เป็นบางคนก็ไม่เป็นนะคะ ถ้าคุณแม่คนไหนมีอาการหนัก หรือ น่าวิตกควรปรึกษาคุณหมอดีที่สุดค่ะ

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular