fbpx
Homeการตั้งครรภ์การคลอดและหลังคลอด8 เรื่องควรทำและไม่ควรทำในระหว่างรอคลอด เราแนะนำดังนี้

8 เรื่องควรทำและไม่ควรทำในระหว่างรอคลอด เราแนะนำดังนี้

การคลอดบุตรเอง เป็นกลไกที่ธรรมชาติสร้างขึ้นให้คุณแม่สามารถคลอดลูกเองได้ แต่คุณแม่หลาย ๆ คนก็ควรศึกษาถึงวิธีการคลอดลูกไว้ก่อนก็จะดีค่ะ เพราะเมื่อถึงเวลาคลอดคุณแม่จะได้ปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง ช่วยให้การคลอดลูกเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น

8 เรื่องควรทำและไม่ควรทำในระหว่างรอคลอด

1. ไม่ควรใช้ยาเพื่อคลายความปวด:

คุณแม่ลองปล่อยให้ปวดท้องเองแบบธรรมชาติไปก่อนค่ะ ค่อย ๆ เริ่มปวดท้องแบบทีละนิดไปจนปวดที่สุด จนกระทั่งคลอด เพราะถ้าเริ่มใช้ยาลดอาการเจ็บท้อง เมื่อยาหมดฤทธิ์ จะทำให้คุณแม่รู้สึกปวดมากในทันทีได้ แต่คุณแม่คนไหนไม่ไหวจริง ๆ ก็สามารถใช้ได้ตามดุลพินิจของคุณหมอค่ะ

2. เมื่อใกล้คลอดไม่ควรฟังเรื่องการคลอดลูกเองจากคุณแม่ท่านอื่นมากเกินไปค่ะ:

เพราะคุณแม่บางคนก็มีประสบการณ์ไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดและทรมาน ใช้ระยะการรอคลอดนานอาจทำให้คุณแม่กลัวก่อนคลอดลูกได้ค่ะ

3. ฝึกกำหนดลมหายใจ:

เพื่อช่วยให้อาการปวดผ่อนคลายความปวดให้ลดลง หรือควรฝึกสมาธิอย่างสม่ำเสมอในช่วงไตรมาสสุดท้ายค่ะ

4. ให้คุณพ่อช่วยนวดผ่อนคลายได้ค่ะ:

ถ้าเป็นช่วงเจ็บท้องรอคลอดแล้ว คุณพ่อสามารถเข้าไปในห้องคลอดได้ด้วย คุณพ่อสามารถช่วยคุณแม่โดยการบีบนวดผ่อนคลายอาการเจ็บปวดได้นะคะ

5. ควรมีสติอยู่เสมอ:

เมื่อความเจ็บปวดเข้าครอบงำ ให้คุณตั้งสติและนึกถึงลูกที่กำลังจะคลอด นึกถึงสิ่งที่คุณรอคอยมานาน นึกถึงว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะได้เห็นหน้าลูก สิ่งนี้ช่วยให้คลายความเจ็บปวดได้ค่ะ

6.กินอาหารเพิ่มพลัง:

ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนคลอด ควรกินอาหารที่ให้พลังงานสูงไว้ก่อน ไม่ควรงด หรือ ลดอาหารเด็ดขาด เพราะในระหว่างรอคลอดอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะคลอดบุตรออกมาได้ อาหารแนะนำคือ ไข่ ควรต้องกินให้ได้ทุกวันค่ะ

7. คิดถึงเป้าหมายสูงสุดคือลูกที่คลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย:

ตั้งความหวังไว้ว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า จะได้เวลาคลอดลูก ความเจ็บปวดในระหว่างรอคลอดกำลังจะหมดไป

8. ไม่ควรส่งเสียงหรือดิ้นไปมา:

เมื่อมีอาการปวดท้องอย่างมากระหว่างรอคลอด คุณแม่ไม่ควรส่งเสียงกรีดร้อง หรือ ไม่ควรส่ายศีรษะและลำตัวไปมา เพราะจะทำให้คุณแม่สูญเสียพลังงานในระหว่างรอคลอดจนหมด เมื่อถึงเวลาเบ่งคุณแม่อาจจะไม่มีแรงเบ่งได้ค่ะ

ในช่วงไตรมาสสุดท้ายคุณแม่ควรได้รับอาหารที่ดีมีประโยชน์ ฝึกสมาธิ และการหายใจเพื่อระงับอาการปวด และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อร่างกายจะได้มีแรงเมื่อถึงเวลาต้องเบ่งลูกค่ะ

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular