fbpx
Homeการเลี้ยงลูก9 เรื่องที่คนเป็นพ่อแม่ไม่อยากได้ยินจากลูก

9 เรื่องที่คนเป็นพ่อแม่ไม่อยากได้ยินจากลูก

4. หนูคิดว่าตัวเองอ้วน

ถ้าลูกพูดแบบนี้ต้องลองถามดูค่ะ ว่ามีคนพูดให้ลูกฟังหรือไม่ คุณควรให้กำลังลูก และควรดูว่าลูกกำลังจะเข้าสู่ภาวะเด็กอ้วนจริงหรือไม่ ถ้าลูกกำลังเริ่มอ้วนและมีความวิตกกังวลคุณควรดูแลเรื่องอาหารและกิจกรรมเกี่ยวกับการออกกำลังกายเพื่อดึงความมั่นใจของลูกให้กลับมาดีกว่าค่ะ

5. เรียกร้องซื้อของที่ไม่จำเป็น

เด็กๆยังไม่เข้าใจดีนักว่าสิ่งไหนจำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิต สิ่งที่ลูกต้องการตอนนี้คือ สิ่งที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกได้เท่านั้น สิ่งนั้นอาจจะดูไร้สาระในสายตาของพ่อแม่ แต่สำหรับลูกที่ยังเด็กอยู่แน่นอนว่าลูกจะไม่เข้าใจและมักจะโวยวายเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ดังนั้น พ่อแม่ควรตั้งกฎสำหรับการซื้อของของลูกไว้ตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อที่ไม่เกิดปัญหาตามมาที่หลังค่ะ

6. หนูเกลียดโรงเรียน ไม่อยากไปโรงเรียน

ถ้าลูกมีอาการแบบนี้สิ่งที่พ่อแม่ต้องทำคือหาเหตุผลที่ลูกไม่อยากไปโรงเรียนให้ได้ ถามลูกดังนี้ค่ะ ไม่ชอบอะไรในโรงเรียน หนูคิดว่าโรงเรียนเป็นอย่างไร เมื่อรู้สาเหตุที่ลูกไม่อยากไปโรงเรียนพ่อแม่ควรหาข้อดีของการไปโรงเรียนมาพูดคุยกับลูก เพื่อให้ลูกอยากไปโรงเรียนมากขึ้นค่ะ

7. ทำไมพ่อกับแม่ต้องทะเลาะกัน

คำถามนี้ถ้าพ่อแม่ได้ฟังคงเป็นเรื่องที่ตอบได้ยากมาก เพราะผู้ใหญ่มักมีเหตุผลกับคนละแบบ แต่ก็ต้องยอมรับเมื่อทะเลาะกันให้ลูกเห็น มันจะส่งผลเสียด้านจิตใจกับลูกแน่ๆ ดังนั้นสิ่งที่คุณจะทำได้คือแสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและควรพยายามไม่ใส่อารมณ์หรือโต้เถียงกันต่อหน้าลูกอีกค่ะ

8. หนูอยากให้แม่เป็นเหมือนแม่เพื่อน

คำพูดนี้อาจจะทำให้คุณเสียใจ แต่คุณก็ควรมองย้อนดูว่าทำไมลูกจึงพูดเช่นนั้น แม่ของเพื่อนอาจจะเป็นคุณแม่ที่ปล่อยให้ลูกทำอะไรตามใจหรือไม่ หรือ เป็นคุณแม่ที่ชอบเอาใจลูกหรือไม่ คุณตั้งกฏเกณฑ์กับลูกเกินไปหรือไม่ สิ่งที่คุณต้องทำคือ บอกลูกว่าทุกๆบ้านมีกฎระเบียบไม่เหมือนกัน ผู้ใหญ่บางคนก็ใช้ชีวิตต่างกัน แต่ที่เหมือนกันคือ การรักลูกมากเหมือนๆกันค่ะ

9. หนูเกลียดตัวเอง

เด็กทุกคนต้องการเป็นที่ยอมรับ และต้องการดูแตกต่างจากเพื่อน ยิ่งเป็นเด็กวัยรุ่น ยิ่งมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ต้องการเป็นจุดสนใจของคนรอบข้าง แต่เมื่อสิ่งที่ทำไม่ได้รับการยอมรับหรือส่งผลดี อาจทำให้เด็กกลายเป็นคนเก็บตัว ซึมเศร้า และรู้สึกผิดหวังกับตัวเอง ดังนั้น พ่อแม่ควรช่วยส่งเสริมลูกในทางที่ดี พูดคุยทำความเข้าใจ เพื่อให้ลูกกลับมามีความมั่นในอีกครั้ง สิ่งเหล่านี้ควรเริ่มจากที่บ้านก่อนเป็นอันดับแรกๆค่ะ

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

<<อ่านก่อนหน้านี้คลิก

1    2

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular