fbpx
Homeการตั้งครรภ์สุขภาพช่วงตั้งครรภ์คนท้อง ก็อยากสวยนะ ตอน เป็นสิว ผิวไม่เรียบเนียน

คนท้อง ก็อยากสวยนะ ตอน เป็นสิว ผิวไม่เรียบเนียน

คนท้อง บางท่าน มักวิตกกังวลกับปัญหาผิวพรรณและ “สิว”  ที่เห่อขึ้นเต็มทั่วใบหน้าในช่วงตั้งครรภ์  ทั้งสิวอักเสบเม็ดโตๆแดงๆ สิวหัวช้าง และสิวผด ทั้งๆที่ก่อนตั้งครรภ์ ใบหน้าไม่เคยมีสิว มากล้ำกรายเลยแม้แต่น้อย และผิวพรรณก็ยังดูสดใสมีสุขภาพดีกว่านี้ คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ต้องตกใจนะคะ ในช่วงตั้งครรภ์ ฮอร์โมนจะมีการเปลี่ยนแปลงค่ะ เมื่อหลังคลอดก็จะหายกลับมาเป็นปกติ

คนท้อง บางท่านมีความกังวลตลอดเวลาที่ผิวพรรณและใบหน้าของตัวเองไม่เรียบเนียนเหมือนแต่ก่อน บางท่านแอบไปซื้อยามารักษาสิวด้วยตัวเอง เหมือนที่เคยใช้ตอนก่อนตั้งครรภ์  แต่คุณแม่ทราบหรือไม่คะว่า [su_highlight background=”#ff5459″]ยารักษาสิวและครีมบำรุงผิวบางตัว เป็นอันตรายมากถึงกับทำให้ลูกน้อยในครรภ์พิการได้เลยนะคะ[/su_highlight]  ยารักษาสิว แบ่งเป็นประเภทดังนี้ค่ะ

 

ยาทา ยาแต้มสิวอักเสบเฉพาะที่ เป็นยาฆ่าเชื้อ และยาทาละลายหัวสิวอุดตัน มี 2 กลุ่ม ได้แก่

  1. Benzyl Peroxide กลุ่มฆ่าเชื้อสิว ทาก่อนล้างหน้า 5-10 นาทีแล้วล้างออก ปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์
  2. กลุ่มกรดวิตามิน เอ ใช้ทากลางคืน เพราะไวต่อแสง ไม่ควรใช้ขณะตั้งครรภ์

ครีมบำรุงผิวหน้าหรือผลิตภัณฑ์ที่มีสาร Retin-A, AHA หรือ BHA,Renova หรือ Benzoyl Peroxide    กลุ่มพวก whitening ลด กระ ฝ้า สิว ต่างๆ [su_highlight]ตัวที่อันตรายที่สุด คือ เรตินอล เอ  หรือ กรดวิตามินเอ[/su_highlight]  ตัวกรดวิตามินเอจะซึมเข้าสู่กระแสเลือด อาจส่งผลให้ลูกในครรภ์แท้งหรือพิการได้ มีความเสี่ยงสูงค่ะ

ยากิน กลุ่มกรดวิตามินเอ (Isotretrinoin) ใช้กับสิวที่รุนแรง คือ สิวหัวช้าง สิวที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ สิวที่ทำให้เกิดแผลเป็นรุนแรง ยานี้ส่งผลทำให้ลูกพิการได้ เช่น ศีรษะโตหรือเล็กผิดปกติ ใบหน้าและตาผิดปกติ ปัญญาอ่อน หัวใจผิดปกติ

ส่วนกลุ่มยาปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อสิว) คือ เตตร้าซัยคลีน (Tetracycline) ส่งผลเสียต่อตับของแม่ ทำให้ฟันน้ำนมของลูกมีสีเหลือง และมีความผิดปกติ [su_highlight background=”#ff3b4b”]ยาทั้ง 2 ชนิดนี้ จึงห้ามใช้ในขณะตั้งครรภ์โดยเด็ดขาด[/su_highlight]

ดังนั้นก่อนที่ คุณแม่ตั้งครรภ์ จะใช้ยารักษาสิว และครีมทาผิวชนิดใด ควรอ่านฉลากข้างขวดและปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ลูกน้อยในครรภ์ต้องเป็นอันตรายนะคะ แต่อยากแนะนำให้คุณแม่อดทนไปก่อนค่ะทนอีกสักหน่อยเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยจะดีที่สุดค่ะ


จาก : maerakluke.com Photo Credit : fitbump360.com

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular