อาการแพ้ท้องเป็นเครื่องบ่งบอกว่าคุณผู้หญิงมีเจ้าตัวเล็กแล้ว แม้การที่ประจำเดือนขาดจะบอกได้เช่นกัน แต่ไม่แน่ชัดเท่าอาการแพ้ท้องที่ตามมา เพราะประจำเดือนขาดอาจเป็นเรื่องสุขภาพหรือความพร้อมของร่างกายด้วย รวมถึงการเจ็บป่วยของร่างกายอีก
การแพ้ท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์มีหลายระดับ บางคนแพ้ถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ หรือมีอาการขึ้นมาจากการเหม็นอาหารที่คุ้นเคย ฯลฯ แต่ยังมีคุณแม่อีกกลุ่มที่ไม่เกิดอาการแพ้ท้องใด ๆ ขึ้นเลย สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ หรือรับประทานได้มากขึ้นกว่าปกติด้วย
สัญญาณอาการแพ้ท้อง
สัญญาณอาการแพ้ท้อง จะเกิดขึ้นเมื่อประจำเดือนขาดประมาณ ๒ สัปดาห์ และมีโอกาสทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไตรมาสที่ ๑ (อายุครรภ์ระยะ ๑ – ๓ เดือน) แต่มีคุณแม่ตั้งครรภ์บางรายโชคร้ายที่แพ้ท้องตลอดระยะตั้งครรภ์ เป็นปัญหาที่ยุ่งยากเพราะรับประทานอาหารปุ๊บก็อาเจียนออกทันที ต้องสรรหาอาหารเสริมหรือปรึกษาแพทย์เพื่อบรรเทาอาการด้วย
ทำไมต้องแพ้ท้องด้วยนะ?
สาเหตุของอาการแพ้ท้องคือ ฮอร์โมนตัวหนึ่งชื่อว่า Human Chorionic Gonadotropin (HCG) มีเฉพาะคุณแม่ช่วงตั้งครรภ์เท่านั้น เจ้า HCG จะกระตุ้นร่างกายให้หลั่งน้ำมากขึ้น อาทิ น้ำลาย กรดในกระเพาะ แถมกระตุ้นให้ทางเดินอาหารบีบตัว จนเกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียน ร่วมถึงการรับประทานได้น้อยลง หากเข้าสู่ไตรมาสที่ ๒ ของการตั้งครรภ์แล้ว ร่างกายของคุณแม่จะปรับตัวและคุ้นชินกับฮอร์โมน HCG ได้ดีขึ้น อาการแพ้ท้องจึงทุเลาขึ้น
สิ่งที่ต้องระวังเกี่ยวกับการแพ้ท้อง
แต่มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงกับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่จู่ ๆ อาการแพ้ท้องก็หายไปดื้อ ๆ เลย สาเหตุเกิดจากฮอร์โมนลดลงทันที มักจะมีอาการร่วมด้วยคือ เช่น มีเลือดออก ปวดท้อง ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า เป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่สมบูรณ์ เป็นต้นว่า การตั้งครรภ์ไข่ฝ่อ คือ ตั้งครรภ์แต่ไม่มีทารก หรือการตั้งครรภ์ที่ทารกในครรภ์มีอันเป็นไป ทำให้ระดับของฮอร์โมนแห่งการตั้งครรภ์ อยู่ในระดับที่ไม่สูงพอที่ทำให้คุณแม่มีอาการแพ้ท้องได้
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ไม่มีอาการแพ้ท้องใด ๆ เลยถือว่าโชคดี แต่การตรวจร่างกายเมื่อประจำเดือนขาดโดยใช้เครื่องตรวจครรภ์ และยืนยันด้วยการตรวจกับสูติแพทย์แล้ว เป็นวิธีตรวจเช็คร่างกายที่แน่ชัดด้วย
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ