ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) มีความสำคัญสำหรับการเข้าสังคม การควบคุมอารมณ์ บุคคลที่มี EQ ค่อนข้างต่ำอาจเป็นคนโมโหร้าย ระงับความโกรธไม่ได้ ระเบิดลงได้ทุกเวลา ซึ่งไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนใกล้ตัว หรือกรณีตัวอย่าง นศพ.ที่มีไอคิวสูง ๆ เป็นเด็กขยันและตั้งใจเรียน กลับเข้าสังคมไม่ได้ ยอมรับความพ่ายแพ้และการเป็นรองคนอื่นไม่ได้ บางรายฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา ดังนั้น EQ จึงต้องพัฒนาควบคู่กับ IQ ของเด็กไปพร้อม ๆ กัน เพื่อขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นได้ภายหลัง
เริ่มพัฒนา EQ ให้ลูกตอนอายุเท่าไร
การพัฒนาอีคิวสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ คือคุณแม่ไม่ควรมีความเครียดใด ๆ ที่จะส่งผลต่อทารกในครรภ์ ไม่แตกต่างจากการพัฒนาไอคิวเมื่อทารกอยู่ในครรภ์มารดา และเมื่อเด็กเติบโตถึงวัย 6 – 12 เดือนแล้ว เขาจะมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ชัดเจนขึ้น มีการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย สังเกตได้จากการยิ้ม ยิ้มให้คนคุ้นเคยเห็นหน้า ยิ้มให้กระจก ยิ้มให้พ่อแม่ การส่งเสริมอย่างเหมาะสม เกิดความเข้าใจต่อพัฒนาการของเด็ก ร่วมถึงกิจกรรมที่ทำร่วมกันแล้ว อีคิวย่อมพัฒนาอย่างถูกต้อง
พัฒนา EQ ให้ลูกน้อยอย่างไร
พัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กเล็กเริ่มจากสิ่งใกล้ตัว อย่างการสัมผัสสิ่งของ การเคลื่อนย้ายวัตถุ เช่น โยน ปา หรือสัมผัสด้วยปาก ของเล่นที่คุณควรซื้อไว้อาจเป็นบล็อกไม้ หรือของเล่นเสริมพัฒนาการของเด็ก การที่เขาสามารถประกอบได้จะเกิดความสนุก และเด็กจะเรียนรู้ได้มากขึ้น คุณจะเห็นเขายิ้มและส่งเสียงแสดงความดีใจ
การเลียนแบบพฤติกรรมที่พ่อแม่ได้ทำ หรือการพูดคุย และมุขตลกที่สร้างเสียงหัวเราะ ทำให้เขายิ้มและสนุกไปกับกิจกรรมที่ทำอยู่ ซึ่งคุณไม่ควรดุเขาเลย แต่ควรบอกโดยให้เหตุผลและห้ามอย่างเหมาะสม การดุก่อนที่เด็กจะทำ มักทำให้เขาไม่กล้าที่จะแสดงอารมณ์ออกมา กลายเป็นเด็กเก็บอารมณ์ที่พร้อมระเบิดเมื่อไรก็ได้ ของแบบนี้ต้องค่อย ๆ ฝึกกันไปเรื่อย ๆ ตามวัยอย่างเหมาะสม ไม่ควรข้ามขั้น หากพัฒนาได้ช้าก็ไม่ควรเร่งเด็ก เขาจะมีความวิตกมากขึ้น แทนที่คุณจะช่วยพัฒนาอีคิวของเด็ก ก็กลายเป็นชนวนระเบิดเวลาสำหรับเด็กแทน
Photo Credit: forum.xcitefun.net
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ