เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของสังคม ซึ่งมีทั้งประโยชน์และอันตรายจากเทคโนโลยีเหล่านั้น หากไม่มีการดูแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคนใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี กับโปรแกรมสนทนาออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย เป็นสิ่งช่วยสร้างสัมพันธ์และสะดวกต่อการติดต่อสื่อสารมากขึ้น
หลายครอบครัวให้ลูกได้สัมผัสและเรียนรู้ที่จะใช้งาน เพื่อความสะดวก แต่คุณอาจมองข้ามถึงความปลอดภัยจากการใช้งาน การใช้เทคโนโลยีเป็นดาบสองคมที่ทำให้หลายครอบครัวเสียคนรัก หรือมีปัญหากันได้ ตัวอย่างเช่น กรณีของเด็กชายที่มีปัญหากับเพื่อน และอัดวีดิโอในเชิงถามถึงปัญหากับเพื่อน ตามความเป็นจริงแล้ว ปัญหาเหล่านี้ควรพูดกันต่อหน้าเพราะเป็นประเด็นส่วนตัว แต่เด็กได้อัดคลิปจนกลายเป็นประเด็นของสังคมอยู่พักหนึ่ง
หรือกรณีที่เด็กสาวหายออกจากบ้าน เพราะมีปฏิสัมพันธ์กับชายแปลกหน้าที่รู้จักผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ครอบครัวจึงตัดสินใจให้สื่อและแจ้งความตามหาตัวเด็ก กลายเป็นข่าวครึกโครมที่จับตามองของสังคมชั่วครู่เท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ปกครองไม่ได้ให้คำแนะนำและไม่ควบคุมให้ปลอดภัย
วิธีดูแลลูกให้ปลอดภัย ในยุคโซเชียลมีเดีย
วิธีป้องกันอันตรายที่ไม่คาดคิดสามารถทำได้คือ พูดคุยกับลูกรักว่า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์ จะมีระยะเวลาใช้งานที่กำหนด หรือตั้งอุปกรณ์ไว้ในจุดที่มองเห็นได้ เพื่อที่คุณจะได้สังเกตว่าลูกได้ใช้โปรแกรมอะไร แต่ต้องให้เหตุผลกับเขาอย่าบังคับมากไป หรือมีกรณียกเว้นเป็นครั้งคราว เรื่องการติดต่อกับคนแปลกหน้า ซึ่งเป็นปัญหาของสังคมนั้น ทางครอบครัวต้องให้คำแนะนำในการรับเพื่อนผ่านสื่อโซเชียล ว่าควรรับเพียงเพื่อนร่วมห้อง หรือเลือกคุยเฉพาะเพื่อน ๆ เท่านั้น เพราะเราไม่รู้ว่าคนอื่นที่ไม่รู้จักจะสร้างปัญหาอื่นให้อีกหรือเปล่า
หรือวิธีที่ง่ายที่สุดคือ การพูดคุยกับเด็กให้ได้ทุกเรื่อง ซึ่งคุณไม่ควรดุหากเขาทำผิด หรือมีการลงโทษที่เป็นความรุนแรง เพราะเด็กจะไม่กล้าเปิดใจเล่าในสิ่งที่ทำอยู่ หากทั้งครอบครัวสามารถพูดคุยกันทุกเรื่องได้ การคบเพื่อนและปัญหาเด็กหายจากการพบปะคนแปลกหน้าจะลดลง เพราะอย่างน้อยคุณมีโอกาสได้ไปส่งเขา และได้เห็นบุคคลที่ลูกไปเจอ ดีกว่าปล่อยให้เขาแอบทำอะไรลับหลังจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา
จาก : แม่รักลูก Photo Credit : jaymiescotto.com