โรคปอดบวมในเด็กเล็ก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส หรือ เชื้อแบคทีเรีย อาการนี้จะพบบ่อยในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี และมีรายงานผลการเสียชีวิตสูงมาก อาการปอดบวมในเด็กเล็ก คือ อาการอักเสบ ที่เกิดขึ้นบริเวณเนื้อปอด หลอดลม ถุงลมต่าง ๆ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรรู้จักและป้องกันโรคนี้ไว้ค่ะ
โรคปอดบวมในเด็ก จะเหมือนกับอาการที่ลูกเป็นไข้หวัดธรรมดาคือ เป็นไข้ ไอ แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องดูอาการที่มีร่วมดังต่อไปนี้ด้วยค่ะ
- ไข้สูง ไอ หายใจเหนื่อย
- ไอมาก ลักษณะไอแห้ง ๆ หรือไอแบบมีเสมหะ
- ได้ยินเสียงหายใจครืดคราด เนื่องจากมีเสมหะมากและเหนียว
- ลูกหายใจเร็วกว่าปกติ (เด็กปกติจะมีอัตราการหายใจประมาณ 20-40 ครั้งต่อนาที)
- มีอาการหอบเหนื่อย เวลาหายใจจมูกจะบาน ช่วงหน้าอกและท้องจะบุ๋ม
- กินนมได้น้อย กินอาหารไม่เป็นปกติ มีอาการซึม
ถ้าลูกมีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้นควรพาลูกไปพบหมอเพื่อวินิจฉัยโรคโดยเร็วค่ะ
การรักษาถ้าลูกมีอาการปอดบวม
- ถ้ามีอาการไม่หนักมากคุณหมอจะให้ยากิน และนัดฟังเสียงปอด
- ถ้าคุณหมอฟังดูการหายใจจากการทำงานของปอดแล้ว ถ้าหนักคุณหมอจะทำการฉีดยาให้ และนัดฟังเสียงปอดอีกครั้ง และอาจให้เป็นยากินแทน
- ถ้าคุณหมอดูแล้วอาการหนักมาก เช่น มีไข้ ไอ มีเสมหะมาก คุณหมออาจต้องให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลและอาจให้ยาทางเส้นเลือดดำ ดูดเสมหะ และเคาะปอด เพื่อให้อาการดีขึ้นค่ะ
การป้องกันเพื่อไม่ให้ลูกเป็นปอดบวมคือ
- ให้ลูกกินนมแม่ อย่างน้อย 6 เดือน เพราะในนมแม่มีภูมิคุ้มกันโรคหลายอย่าง
- เมื่อลูกไม่สบายควรรีบรักษาอาการของลูกให้หายโดยเร็ว ให้กินน้ำอุ่นเยอะ ๆ
- หลีกเลี่ยงการอยู่รวมกัน หรือใช้สิ่งของรวมกันกับคนป่วย
- สามารถฉีดวัคซีนทางเลือกเพื่อป้องกันโรคได้ทางหนึ่ง วัคซีนที่ครอบคลุมโรคนี้คือ วัคซีนไอพีดี วัคซีนนี้จะช่วยยับยั้งการติดเชื้อนิวโมคอคคัส ซึ่งเป็นสาเหตุของโรค การติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้เกิดหูน้ำหนวก ไซนัสอักเสบ หากลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด เยื่อหุ้มสมอง ก็ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ได้ค่ะ
การวินิจฉัยโรคนอกจากคุณหมอจะฟังเสียงหายใจจากปอดของลูกแล้วคุณหมอจะสอบถามกิจกรรมต่าง ๆ ของลูกตอนอยู่ที่บ้านด้วย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องจดจำและใส่ใจว่าลูกทำอะไรบ้างเวลาอยู่ที่บ้าน กินอย่างไร นอนอย่างไร เรื่องพวกนี้จะทำให้คุณหมอวินิจฉัยโรคได้ถูกต้องแม่นยำ และจะทำการรักษาได้อย่างรวดเร็วค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ