เมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตฝากความหวังในการลืมตาดูโลก ฝากชีวิตไว้กับร่างกายของคุณแม่แล้ว สิ่งใดที่ไม่ดีต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ คุณแม่ควรถอยห่างออกมาดีกว่า แค่ระยะเวลาเพียง 9 เดือนที่ลูกน้อยฝากทุกอย่างไว้กับคุณ อาจทำให้คุณเห็นประโยชน์จากสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น และรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร และดูแลสุขภาพของตนให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
ปกติอาหารหนึ่งมื้อที่รับประทานเป็นประจำนั้น คุณอาจไม่ได้คัดเลือกเมนูที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เน้นที่ความอร่อยถูกปากมากกว่า ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกอาหารในแต่ละมื้อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อร่างกายของคุณและลูกน้อยในครรภ์
เมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์แล้ว. ควรปรับเรื่องการกิน
คุณอาจรับประทานจำพวกแป้งและน้ำตาลมากเป็นปกติ เพราะเป็นแหล่งพลังงานอย่างดี โดยเฉพาะข้าว หรือขนมปัง แต่เมื่อคุณตั้งครรภ์แล้ว อาจต้องลดอาหารจำพวกแป้งลง เพราะคุณแม่อาจไม่ได้ออกกำลังกายบ่อย หรือไม่ได้ใช้แรงงานเยอะเหมือนก่อนหน้านี้ ทำให้คุณอ้วนง่ายขึ้น ถ้าตรวจพบในขณะตั้งครรภ์ว่าเป็นเบาหวานหรือมีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติแล้ว คุณต้องควบคุมอาหารมากขึ้น และเน้นทานอาหารจำพวกโปรตีน อาทิ เนื้อสัตว์ ปลา ถั่ว และดื่มนม เป็นประจำ เพราะโปรตีนเป็นส่วนสำคัญในการสร้างอวัยวะของทารกในครรภ์ และส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างมาก
ผักและผลไม้ที่ควรเลือกรับประทานในช่วงตั้งครรภ์นั้น ควรเป็นฟักทอง ผักใบเขียวต่าง ๆ ที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ รวมทั้งมีไฟเบอร์ที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย หรือซื้อวิตามินเสริมอย่างธาตุเหล็กและแคลเซียมมาทานเพิ่ม เพราะการรับประทานอาหารจากมื้อปกติอาจได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ ช่วงตั้งครรภ์ของคุณแม่ ร่างกายต้องการสารอาหารและวิตามินมากเป็นพิเศษ เพื่อใช้สร้างเม็ดเลือดและกระดูกของเด็ก
ควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว เพื่อช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้เป็นไปด้วยดี แถมช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น และอาหารจำพวกไขมันต่าง ๆ ควรลดจะดีกว่า หากทานในปริมาณที่มากจะทำให้อ้วน และยังมีผลเสียอื่น ๆ ต่อร่างกายมากกว่าผลดี
เมื่อรู้แล้วว่าช่วงตั้งครรภ์ควรเลือกรับประทานอาหารประเภทใด มากหรือน้อยอย่างไร เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายของคุณแม่และลูกน้อยแล้ว คงไม่ใช่เรื่องยากในการปรับตัวจริงไหมคะ?
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ