โรคตุ่มน้ำพองใสในเด็ก Epidermolysis bullosa คือโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ ถ้าคุณแม่หรือคุณพ่อเคยเป็นโรคนี้แล้ว โอกาสที่จะถ่ายทอดไปสู่ลูกนั้นมีสูงมาก เกิดจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการสร้างผิวหนัง อาการที่เกิดในเด็กจะมีตุ่มน้ำพองใสขนาดต่าง ๆ เกิดขึ้นที่ผิวหนัง หากตุ่มน้ำแตกจะเกิดแผลให้ความรู้สึกเจ็บ ๆ แสบ ๆ ซึ่งในเด็กบางคนอาจมีอาการที่เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกายด้วย
อาการของโรคนี้แบ่งได้เป็น 3 ระดับตามโครงสร้างของผิวหนัง คือ
1.Epldermolysis bullosa simplex
เป็นความผิดปกติที่ชั้นหนังกำพร้า (epidermis) ซึ่งเป็นขั้นไม่รุนแรง ส่วนมากจะเกิดในวัยทารก เมื่อมีการเสียดสี กระทบกระทั่ง มีการขัดถูที่ผิวหนัง ก็อาจเกิดเป็นตุ่มน้ำ เมื่อตุ่มน้ำแตกก็เกิดแผล แต่เมื่อแผลหายแล้วจะไม่เป็นแผลเป็น
2.Junctional EB
เป็นตุ่มน้ำขึ้นที่ชั้นผิวหนังระหว่างรอยต่อของชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) กับชั้นหนังแท้ (Eermis) หากเป็นในขั้นนี้เมื่อแผลหายแล้วจะไม่เป็นแผลเป็น แต่อาจพบความผิดปกของเล็บ ระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร และระบบทางเดินปัสสาวะร่วมด้วย
3.Eystrophic EB
อาการขั้นรุนแรงที่สุด เพราะเกิดในชั้นหนังแท้ นอกจากความรุนแรงที่ผิวหนังแล้ว หากดูแลแผลไม่ดีเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจทำให้มีแผลที่รอบปาก หรือเกิดแผลในปาก ทำให้เจ็บแสบกลืนอาหารไม่สะดวก
หากปล่อยให้ผิวหนังถลอกหรือเป็นแผลมาก ๆ ก็อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นหนอง ถ้าเป็นรุนแรง เชื้อโรคอาจเข้าสู่กระแสเลือด หรือทำให้มีการติดเชื้อลุกลามในอวัยวะภายในได้ค่ะ
การตรวจพบโรคก่อนมักทำให้เรารู้วิธีป้องกัน ก่อนที่จะแต่งงานก็ควรตรวจดูว่าทั้งบ่าวสาวเป็นพาหะโรคทางพันธุกรรมหรือไม่ หากพบในเด็กแล้ว คุณหมอจะตรวจวินิจฉัยโดยตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจทางพยาธิวิทยาร่วมกับตรวจทางจุลทรรศน์อิเล็กตรอน เพื่อหาความผิดปกติว่าอยู่ที่ชั้นไหนของผิวหนัง โดยการรักษาก็จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงที่เกิดขึ้นว่าอยู่ชั้นหนังกำพร้า อยู่ชั้นผิวหนังระหว่างหนังกำพร้ากับหนังแท้ หรือเป็นขั้นรุนแรงที่ชั้นหนังแท้ค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ