เราเชื่อว่าคุณแม่มือใหม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่อยากให้ลูกออกมามีสุขภาพแข็งแรงและอ้วนท้วนสมบูรณ์กันทุกคน แต่หากเอาแต่กินตามใจปากจนมากเกิน บางทีลูกน้อยอาจจะไม่ได้รับสารอาหารอะไรเลยก็เป็นได้ แต่กลายเป็นคุณแม่ที่ตัวบวมกลายเป็นสาวอ้วนหลังจากคลอด มาดูกันซิว่าลูกของเราจะได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วนแล้วตัวเราไม่อ้วนบวมฉุนั้นจะต้องทานอะไรอย่างไรบ้าง
ในช่วงระยะตั้งครรภ์ 0-3 เดือน
เป็นช่วงที่ทารกกำลังพัฒนาอวัยวะต่าง ๆ ให้เป็นรูปเป็นร่าง ในช่วงนี้คุณแม่ต้องพยายามรับประทานอาหารจำพวกไขมันเอาไว้ให้มาก โดยเฉพาะไขมันจากปลาทะเลน้ำลึก หากมีอาการอาเจียนเนื่องจากแพ้ท้องให้รับประทานอาหารเบา ๆ หรือแบ่งมื้ออาหารออกเป็นหลายมื้อก็จะช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้
ในช่วงระยะตั้งครรภ์ 3-6 เดือน
เมื่อลูกน้อยในครรภ์สร้างอวัยวะครบเรียบร้อยแล้วให้คุณแม่ลดการทานไขมันลงแล้วมาเน้นโปรตีนให้มากขึ้น โดยเฉพาะน้ำนมถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ น้ำมะพร้าว เนื้อปลา และอื่น ๆ เราไม่แนะนำนมวัวเพราะนมวัวบางชนิดอาจจะมีสารเร่งการเจริญเติบโต
ในช่วงระยะตั้งครรภ์ 6-9 เดือน
เป็นช่วงเวลาที่ใกล้คลอดแล้ว คุณแม่อาจจะเคลื่อนไหวไม่สะดวก อาหารที่ควรรับประทานในช่วงนี้ควรเป็นอาหารที่มีสรรพคุณบำรุงเลือด รวมถึงผักผลไม้ต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม อาหารจำพวกแป้ง ไขมันก็ยังจำเป็นอยู่ แต่ควรเลือกรับประทานให้น้อยหรือเลือกแบบ Low Fat หรือเลือกรับประทานแบบไขมันที่ได้จากปลาทะเลต่าง ๆ ที่จะมีสารอาหารจำพวกโอเมก้า 3 6 9 ซึ่งจะช่วยพัฒนาการสมองของลูก ส่วนไขมันที่ได้จากเนื้อหมู ไก่ ส่วนมากแล้วจะเป็นกรดไขมันธรรมดา หากรับประทานมากเกินไปก็จะเกิดการสะสม ทำให้หลอดเลือดตีบลง เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ที่สำคัญคือกรดไขมันที่ได้จากไขมันเหล่านั้นก็ไม่ได้ไปช่วยพัฒนาอะไรลูกน้อยเลย
อีกวิธีการหนึ่งสำหรับคุณแม่ที่ไม่ชอบทานผักผลไม้เท่าไหร่ ให้เลือกดื่มน้ำผลไม้แทนก็ช่วยได้เยอะ แต่ควรเป็นน้ำผลไม้แบบคั้นสด ไม่ใช่น้ำผลไม้แบบปั่นหรือแบบผงสำเร็จรูปเพราะวิตามินต่าง ๆ อาจจะถูกทำลายไปแล้ว
คุณพ่ออาจจะช่วยเข้ามาดูแลในเรื่องอาหารการกินเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของคุณแม่ได้บ้าง แต่คุณพ่อจะต้องเด็ดขาดพอสมควรว่าอาหารประเภทใดทานได้และทานไม่ได้บ้าง เพราะคุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะมีเลเวลอารมณ์แปรปรวนขั้นสูงสุดเมื่อยามเธอไม่พอใจค่ะ
จาก : แม่รักลูก Photo Credit : lovelifenutrition.co.uk