ว่ากันว่าการที่เด็กทารกร้องไห้นั้น เป็นวิธีการสื่อสารของลูกที่ต้องการบอกความต้องการกับคุณแม่ว่าต้องการอะไร ในช่วงแรก ๆ ที่ยังเรียนรู้กันไม่ดีพอคุณแม่อาจตอบสนองความต้องการได้ไม่ดีนัก ทำให้ลูกต้องร้องไห้กวนโสตประสาทอยู่บ่อย ๆ
แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก.. เมื่อทำความรู้จักคุ้นเคยกันแล้ว เสียงร้องของลูกก็จะน้อยลง เพราะคุณแม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกได้ดีขึ้น หากคุณแม่ลองสังเกต เสียงร้องของลูกแต่ละแบบก็จะเข้าใจว่าลูกต้องการอะไรบ้าง?
เสียงร้องของลูก แต่ละแบบสื่อความหมายอะไรนะ?
1. อาเฮะ / อึนเนะ
เสียงนี้มักเป็นเสียงเริ่มต้นของการร้องไห้ เมื่อทารกหิวค่ะ จะมาพร้อมกับอาการหันหน้าเข้าหานม และลิ้นพยายามดุนที่ปากเอาไว้ หากคุณแม่ตอบสนองไม่ทันใจ ลูกจะเริ่มโกรธ และพาลร้องไห้ดังขึ้น พออุ้มลูกเข้าหาเต้า ลูกจะส่ายหัวไปมาเพื่อหาหัวนม พอได้กินนมก็หายงอแงเป็นปลิดทิ้ง แต่บางคนก็โกรธจนไม่ยอมกินนมก็มี ขอร้องไห้ต่ออีกสักนิด
2. อ้าว/ห้าว
เสียงนี้จะมาพร้อมกับอาการหาวนั่นเองค่ะ เป็นสัญญาณที่บอกว่า หนูง่วงแล้วนะ หากคุณแม่ไม่อุ้มกล่อม ก็จะเริ่มโยเยงอแง แต่พออุ้มกล่อม อุ้มเดินไปมาสักพัก หรือเอาลงเปล ก็จะหลับค่ะ
3. เอะ /เออะ
หนูอึดอัด ปวดท้อง อาจเป็นเพราะมีลมในท้องมาก คุณแม่ควรจับลูกนั่ง หรือ อุ้มพาดบ่าให้เรอ หรือให้ลูกนอน แล้วจับขาของลูกยกสลับไปมานะคะ ลูกจะสบายตัว ไม่ร้องงอแง
4. เฮะ
หนูไม่สบายตัว อาจเป็นเพราะความเปียกชื้น เหนียวตัว หรืออากาศร้อนเกินไป เปลี่ยนผ้าอ้อม หรือพาลูกไปอาบน้ำ/เช็ดตัวเพื่อระบายความร้อนได้แล้วค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ
- มาดูวิธีง่ายๆที่ทำให้หนูน้อยคนนี้หยุดร้องไห้บนรถกันค่ะ
- ลูกร้องไห้งอแงหนักมาก ไม่ยอมนอน เรามีเคล็ดลับมาฝาก?
- 7 เหตุผลที่ทารกร้องไห้และวิธีปลอบโยนพวกเขา