fbpx
Homeการเลี้ยงลูกการดูแลสุขภาพเด็กเด็กทารกจามบ่อยๆ เพราะอะไร อันตรายไหม มาเช็กสาเหตุกันเลย

เด็กทารกจามบ่อยๆ เพราะอะไร อันตรายไหม มาเช็กสาเหตุกันเลย

การจามหนึ่งในอาการที่สามารถเกิดได้กับทุกคนทุกเพศและทุกวัย รวมไปถึงเด็กทารกด้วย แต่ด้วยความเป็นคุณพ่อคุณแม่ก็มักเกิดความวิตกกังวลกันเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อลูกน้อยจามและยิ่งกังวลมากยิ่งขึ้นหาก เด็กทารกจาม บ่อย ซึ่งในบทความนี้เราก็จะขอพาคุณพ่อคุณแม่ไปไขข้อสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการจามบ่อย ๆ ของลูกน้อยว่าสามารถเกิดขึ้นได้จากอะไรบ้าง รวมถึงเป็นอันตรายหรือไม่ เราไปพบกับสิ่งที่น่าสนใจเหล่านี้ในบทความนี้กันเลย

เด็กทารกจาม เกิดจากอะไร

เราขอพาคุณพ่อคุณแม่มาพบกับสาเหตุที่เด็กทารกจามว่าสามารถเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง ดังนี้

  • การจามของลูกน้อยเกิดจากการปรับตัวเกี่ยวกับการหายใจของลูกน้อย ซึ่งตอนที่ลูกน้อยอยู่ในครรภ์ของคุณแม่จะอาศัยอยู่ในถุงน้ำคร่ำที่มีการหายใจทางปาก แต่เมื่อลูกน้อยคลอดออกมาก็จะต้องหายใจด้วยจมูกจึงมีการจามเพื่อการปรับการหายใจนั่นเอง
  • การจามของลูกน้อยเกิดจากมีสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคเข้าไปภายในโพรงจมูก ในส่วนนี้เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคเข้าไปในจมูกก็จะมีการกำจัดออกมา ซึ่งการกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคในโพรงจมูกที่นับเป็นปฏิกิริยา Reflect หนึ่งของร่างกายลูกน้อยก็คือการจามนั่นเอง
  • การจามของลูกน้อยเกิดจากการที่ร่างกายต้องการขยายส่วนของโพรงจมูกให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้สามารถหายใจได้อย่างเต็มปอดและสามารถหายใจได้คล่องขึ้น

ทารกจามร่วมกับอาการแบบไหน เสี่ยงภูมิแพ้

เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้ทราบแล้วว่าการที่เด็กทารกจามบ่อยนั้นสามารถเกิดได้ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่ากังวลแต่อย่างใด ทั้งนี้ก็ยังมีบางอาการที่หากเป็นพร้อม ๆ กับการที่ลูกน้อยจามบ่อย ๆ ก็จะเสี่ยงต่อการเป็น โรคภูมิแพ้อากาศซึ่งเราก็ได้รวบรวมอาการร่วมเหล่านั้นมาแล้ว ซึ่งมีดังนี้

  • ลูกน้อยมีอาการจามบ่อย ๆ ควบคู่ไปกับการคันตามดวงตา ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการที่ลูกน้อยนำมือไปข่วนหรือเกาบริเวณรอบดวงตา ในส่วนของอาการร่วมเช่นนี้จะเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ของลูกน้อยเป็นอย่างมาก
  • ลูกน้อยมีอาการจามบ่อย ๆ ควบคู่ไปกับการหายใจไม่คล่องหรือการหายใจไม่เต็มปอดนั่นเอง ซึ่งส่วนนี้คุณพ่อคุณแม่จะสามารถสังเกตได้จากเสียงของลมหายใจของลูกน้อย หากมีการเฮือก หรือ การขาดหายเป็นช่วงก็แสดงว่าลูกน้อยเสี่ยงต่อการเป็นภูมิแพ้แล้ว
  • เด็กทารกจามบ่อย ๆ ควบคู่ไปกับการมีอาการไอเรื้อรัง ซึ่งส่วนนี้มักเป็นอาการที่จะเกิดขึ้นเมื่อลูกน้อยเป็นโรคภูมิแพ้นั่นเอง

มารู้จักกับโรคภูมิแพ้อากาศในเด็กกันหน่อย

โรคภูมิแพ้อากาศในลูกน้อยจะสามารถสังเกตเห็นได้ชัดจากความถี่และช่วงเวลาที่เกิด กล่าวคือโรคภูมิแพ้อากาศนี้จะเกิดอาการที่คล้ายคลึงกับหวัด เช่น เด็กทารกจามบ่อย มีอาการคันจมูก หรือ ชอบขยี้จมูก แต่มีจุดที่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างเด่นชัดเลยก็คือ ช่วงเวลาที่เป็นมักเป็นช่วงเช้าของวัน หรือ ช่วงที่อากาศเปลี่ยนทั้งในแง่การเปลี่ยนของอุณหภูมิจากร้อนไปเย็น หรือ เย็นไปร้อน รวมถึงการที่อากาศมีมลภาวะเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้โรคภูมิแพ้ที่เกิดในเด็กจะเกิดเป็นเวลานานเกือบเดือนเลย ส่วนนี้ก็เป็นอีกจุดที่แตกต่างจากหวัดเพราะหวัดจะเป็นไม่เกิน 10 วันก็หาย การเป็นโรคภูมิแพ้ตั้งแต่เด็ก ๆ หรือ ตอนเป็นทารกจะส่งผลต่อเนื่องไปตอนโตที่มักพบการกระตุ้นดีนอยด์และต่อมท่อมซิล ทำให้โตและอักเสบจนนำมาซึ่งการเจ็บคอ การไอได้อีกด้วย

วิธีการดูแลเมื่อลูกเป็นภูมิแพ้อากาศ

หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และลูกน้อยของคุณก็มีอาการของโรคภูมิแพ้นี้แล้ว เราก็มีวิธีการดูแลลูกน้อยที่เป็นภูมิแพ้อากาศ ดังนี้

  1. พาลูกน้อยไปพบแพทย์ ในส่วนนี้คุณพ่อคุณแม่ควรจดจำอาการของลูกน้อยจะได้ไปเล่าให้แพทย์ฟังได้อย่างถูกต้อง อาทิเช่น เด็กทารกจามช่วงไหนบ้าง และจามถี่แค่ไหน ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นข้อมูลสำหรับการวินิจฉัยเบื้องต้นของแพทย์
  2. ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นยาพ่นคุมอาการโรคหืดหรือยาพ่นจมูก นอกจากนี้ก็ควรไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งเพื่อเป็นการตรวจติดตามอาการของลูกน้อยหลังใช้ยาเหล่านั้นด้วย
  3. การจัดสิ่งแวดล้อมให้ลูกน้อยที่ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ไม่ว่าจะเป็นขนสัตว์ เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น หรือแม้แต่ PM 2.5 ก็ตาม

ป้องกันลูกรักจากโรคนี้ได้ไม่ยาก

ถัดมาเราก็ขอพาทุกท่านมาพบกับวิธีป้องกันลูกรักจากภูมิแพ้อากาศกัน ซึ่งมีดังนี้

  1. อาหารสำหรับลูกน้อยต้องเป็นอาหารที่มีประโยชน์เสริมคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน อย่าง น้ำนมแม่
  2. การจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงดูลูกน้อยไม่ว่าจะเป็นไม่เลี้ยงสัตว์ หรือ ไม่สูบบุหรี่ เป็นต้น

จากบทความข้างต้นคุณพ่อคุณแม่จะพบว่าการที่ เด็กทารกจาม นั้นสามารถบ่งบอกได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลเลยอย่างการปรับตัวหลังคลอดของลูกน้อย แต่บางส่วนก็เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเพิ่มการช่างสังเกต ความรอบคอบและการหมั่นปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างคุณหมอที่ดูแลลูกน้อย เพื่อให้ลูกน้อยมีความปลอดภัยหากเป็นภูมิแพ้อากาศขึ้นก็จะสามารถรักษาได้ทันท่วงทีนั่นเอง

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular