fbpx
Homeผู้หญิงฉี่แล้วปวดท้องน้อย อาจเป็นสัญญาณเตือน โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

ฉี่แล้วปวดท้องน้อย อาจเป็นสัญญาณเตือน โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

อาการ ฉี่แล้วปวดท้องน้อย หลายคนคงจะเคยเจอกับอาการนี้กันมาบ้างแล้ว ซึ่งรู้หรือไม่ว่าอาการปวดท้องขณะฉี่นั้นเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณอาจจะกำลังเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนั้นถือเป็นโรคที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากบริเวณปากช่องคลอดมักจะมีการติดเชื้อได้ง่ายและส่วนใหญ่ก็มักจะมีสาเหตุมาจากทวารหนัก ซึ่งนอกจากจะเกิดได้จากการปัสสาวะแล้วการมีเพศสัมพันธ์ โรคเบาหวาน ก็เป็นปัจจัยทำให้เกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ด้วย ทีนี้เรามาดูอาการของโรคปัสสาวะอักเสบ พร้อมกับวิธีรักษา และการป้องกันไม่ให้เกิดโรคกันดีกว่า

ฉี่แล้วปวดท้องน้อย เสี่ยงกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

ฉี่แล้วปวดท้องน้อยเสี่ยงทำให้เกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เนื่องจากท่อปัสสาวะของผู้หญิงเรานั้นค่อนข้างที่จะมีชนาดที่สั้นมาก เมื่อเทียบกับของผู้ชาย ทำให้เชื้อโรคที่อยู่บริเวณปากช่องคลอดมีโอกาสที่เข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่ายได้กว่า แต่โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนี้ก็ถือเป็นโรคหนึ่งที่พบได้ในทุกเพศ ทุกวัย แต่จะพบในเพศหญิงมากกว่า โดยเฉพาะในกลุ่มของหญิงวัยเจริญพันธุ์ในวัยที่กำลังหมดประจำเดือน รวมถึงผู้หญิงสูงอายุที่มีเยื่อบุทางเดินปัสสาวะบางลง หรือคนที่มีความต้านทานโรคต่ำลงก็เสี่ยงที่จะมี อาการปวดท้องน้อย ในขณะฉี่จนนำไปสู่การเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะได้นั่นเอง

โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มีอาการอย่างไร

อาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เมื่อ ฉี่แล้วปวดท้องน้อย โดยส่วนใหญ่จะมีการปวดปัสสาวะบ่อย ๆ ซึ่งบ่อยมากกว่า 10 ครั้ง ต่อวัน และจะเป็นการปัสสาวะแบบกะปริบกระปรอย ซึ่งอาการนี้จะเป็นบ่อยมากในช่วงตอนกลางคืน ทั้งนี้นอกจากจะมีอาการปวดปัสสาวะบ่อย ๆ แล้วก็ยังรู้สึกแสบขัดเมื่อกำลังปัสสาวะด้วย ทั้งยังมีการปัสสาวะไม่สุดอีกด้วยและอาจจะมีอาการเจ็บเสียวที่บริเวณปลายหลอดปัสสาวะด้วย ในบางที่มีอาการรุนแรงก็จะมีอาการฉี่แล้วปวดท้องน้อย ร่วมกับปัสสาวะเป็นสีแดงปนเลือดออกมา

วิธีการรักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบ

วิธีการรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเมื่อฉี่แล้วปวดท้องน้อย ก็จะมีแนวทาการรักษาดังต่อไปนี้

  1. เมื่อแพทย์ได้มีการวินิจฉัยอาการฉี่แล้วปวดท้องน้อย แล้วพบว่าเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แพทย์รักษาโดยการให้ยาฆ่าเชื้อโรคที่เหมาะสม ทั้งชนิดยา ขนาดยา และระยะเวลาที่ให้ในการรักษา โดยจะมีระยะเวลาในการรักษาอยู่ที่ประมาณ 3-5 สัน หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงก็จะต้องรับประทานยาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่องนาน 7-10 วัน
  2. จากนั้นก็จะให้ยารักษาอาการ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวด อาการเจ็บแสบขณะฉี่ รวมถึงอาการปัสสาวะลำบาก
  3. การดื่มน้ำเยอะ ๆ วันละ 2-5 ลิตร ก็เป็นหนึ่งวิธีการรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะที่แพทย์แนะนำ เนื่องจากการดื่มน้ำจะช่วยบับเชื้อโรคที่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะออกมา ช่วยให้อาการทุเลาและค่อย ๆ หายเป็นปกติในที่สุด

วิธีการป้องกันโรคนี้

หลายคนเสี่ยงเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะ และมีอาการ ฉี่แล้วปวดท้องน้อย ได้ง่าย เนื่องจากมีความเสี่ยงอยู่แล้ว แต่หลายคนก็เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะได้ง่ายเพราะไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องของการรักษาความสะอาด ซึ่งจริง ๆ แล้วโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ หากรู้จักดูและและป้องกันให้ดี โดยมีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคกระเพาะปัสสาวะง่าย ๆ ที่ทุกคนก็สามารถทำได้ดังนี้

  • พยายามอย่ากลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่จำเป็น เนื่องจากอาจะทำให้แบคทีเรียในปัสสาวะเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง ซึ่งนอกจากจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบแล้วยังเสี่ยวเกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้ด้วย
  • ดื่มน้ำวันละ 8-10 เป็นอย่างน้อย และที่สำคัญคือควรเป็นน้ำสะอาดเท่านั้น เพราะการดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอจะช่วยขับเชื้อโรคออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนอกจากนี้ก็ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ทั้งยังช่วยให้มีสุขภาพที่ดีอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
  • หมั่นทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศทุกครั้งหลังปัสสาวะหรือทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ควรเน้าทำความสะอาดอวัยวะเพศจากด้านหลังเสมอ เพื่อเป็นการลดการนำเชื้อโรคจากรูทวารและช่องคลอดเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะ ซึ่งแน่นอนเลยว่าหากคุณสามารถทำความสะอาดได้ดีมากเท่าไหร่ โอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะนั้นมีน้อยแน่นอน
  • ทำความสะอาดร่างกายและหลังปัสสาวะทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
  • หากพบอาการผิดปกติ หรือฉี่แล้วปวดท้องน้อยบ่อย ๆ ควรพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง ไม่ควรปล่อยไว้นาน ๆ เพราะอาจเกิดอาการเรื้อรังได้

โรคกระพาะปัสสาวะอักเสบเป็นโรคที่พบได้บ่อย ๆ และเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ง่ายกับทุกคนหากไม่หมั่นดูและความสะอาดบริเวณปากช่องคลอด รวมถึงไม่ดูและสุขภาพให้ดี เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ง่าย ควรหมั่นทำความสะอาดบ่อย ๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำให้เพียงพอ หากทำสิ่งเหล่านี้เป็นประจำจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้อย่างแน่นอน  แต่อย่างไรก็ตามเมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติหรือมีการปวด แสบ ขณะปัสสาวะควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องทันที

เรื่องอื่นๆ ที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular