เมื่อคุณสงสัยว่าตัวเองกำลังจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจโดยการซื้อแบบทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจด้วยตัวเองได้เลย แต่ ตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด และจะตรวจรู้ได้ว่าท้องตอนกี่เดือน เรามีคำตอบมาบอกให้คุณได้รู้กันแล้ว เอาเป็นว่าไปดูกันเลยดีกว่า
ตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด เรามีคำตอบ
การ ตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด แนะนำให้ตรวจตอนเช้าหลังตื่นนอน เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนสูง สามารถใช้ที่ตรวจครรภ์ที่หาซื้อตามร้านขายยาได้เลย แต่ถ้าต้องการความชัวร์จริงๆ ก็ต้องใช้วิธีการตรวจเลือดที่โรงพยาบาล ซึ่งจะทำให้รู้ผลได้เร็วตั้งแต่ 14 วัน หลังจากปฏิสนธิ ซึ่งการตรวจเลือดเพื่อตรวจสอบการตั้งครรภ์ เป็นวิธีตรวจดูค่าของฮอร์โมน HCG หากมีความเข้มข้น ก็จะสามารถบ่งบอกได้ว่าตั้งครรภ์ได้ทันที โดยใช้เวลารอเพื่อฟังผลเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น
ท้องกี่เดือนถึงจะตรวจรู้ได้
ควรตรวจครรภ์ตอนไหนจึงจะได้ผลตรง โดยส่วนใหญ่เมื่อประจำเดือนไม่มาตามปกติจนเลยกำหนดเกิน 7 วันแล้ว ก็สามารถซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์ มาทดสอบดูได้ ซึ่งหลังจากการปฏิสนธิประมาณ 6 วันก็ตรวจรู้ผลแล้ว แต่ทั้งนี้ในบางคนที่มีระดับฮอร์โมนต่ำก็อาจตรวจไม่พบ ซึ่งหลังจากนี้เมื่อครบ 12 วันขึ้นไปแล้วฮอร์โมนจะเพิ่มอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ไม่ว่าตรวจครรภ์ตอนไหนก็ชัวร์สุดทุกครั้ง
วิธีการตรวจครรภ์ ที่นิยมใช้ มีแม่นยำสูง
ได้รู้กันแล้วว่าตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด ก็มาดูวิธีการตรวจครรภ์ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน และให้ผลแม่นยำสูงกันบ้าง โดยมีวิธีดังนี้
1.ตรวจด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์
คนที่ชอบความสะดวกสบาย และสามารถทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองได้ สามารถซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์จากร้านขายยาทั่วไปมาตรวจครรภ์ด้วยตนเองได้ ซึ่งอุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์โดยการตรวจปัสสาวะ มีอยู่ 3 แบบ คือ
- แบบจุ่ม( Test Strip),
- แบบหยด (Pregnancy Test Cassette)
- แบบปัสสาวะผ่าน (Pregnancy Midstream Tests)
ชุดตรวจครรภ์ทั้ง 3 แบบนี้เป็นแบบที่นิยมใช้นำมาตรวจการตั้งครรภ์มากที่สุด เนื่องจากราคาย่อมเยา อีกทั้งยังสะดวกในการใช้งานอีกด้วย สำหรับการแสดงผลการตรวจของ ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่ปรากฎเป็น แถบขีดสีแดง โดยจะแสดงผลเป็น 2 ขีด เท่ากับผลเป็นบวก แสดงว่า ตั้งครรภ์ ส่วนการแสดงผลที่มี 1 ขีด คือผลเป็นลบ แปลว่ายังไม่ได้ตั้งครรภ์ แต่ทั้งนี้การตรวจด้วยวิธีนี้ จะต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งอาจให้ผลลบลวงได้จากปัญหาสุขภาพของคุณแม่ หรือเกิดจากที่ตรวจเสื่อมคุณภาพ ดังนั้นเพื่อความมั่นใจควรตรวจซ้ำ หรือไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง
2.การตรวจการตั้งครรภ์โดยห้องปฏิบัติการ
สำหรับคุณแม่ที่ต้องการความแม่นยำ และสะดวกที่จะไปตรวจที่โรงพยาบาล สามารถรับการตรวจด้วยวิธี Urine Pregnancy test หรือ UPT ซึ่งวิธีการตรวจใกล้เคียงกับการตรวจด้วยตนเอง โดยเจ้าหน้าที่จะให้กระป๋องเพื่อให้คุณแม่เก็บปัสสาวะส่งห้องแลบของโรงพยาบาลนั้นๆ ตรวจให้ ผลการตรวจจะมีความละเอียดอ่อนมากตรวจได้ถึงแม้ว่าฮอร์โมนอยู่ในระดับต่ำมากก็ตาม ซึ่ง ตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด แม้จะเป็นการตรวจที่โรงพยาบาลก็ควรไปตรวจช่วงเช้าๆ เช่นกัน
3.การเจาะเลือดตรวจการตั้งครรภ์
สำหรับวิธีนี้ เป็นการตรวจที่ได้ผลแม่นยำที่สุด และสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์หลังจากมีการปฏิสนธิ ในขณะที่บางครั้ง การตรวจจากปัสสาวะก็ยังไม่สามารถรู้ผลได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการตรวจให้รู้แน่ชัดแน่นอนและเร่งรีบ โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะมีบุตรยาก หรือผู้ที่มีประวัติเคยแท้งบุตร และต้องการข้อมูลเพื่อวางแผนการดูแลร่างกายและการ ให้ฮอร์โมนเสริมต่างๆ เพื่อป้องกันการแท้งบุตรได้อีก
4.การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยอัลตร้าซาวด์
การตรวจด้วยวิธีนี้ จะตรวจด้วยการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเนื้อเยื่อต่างๆ ในช่องท้องและมีการประมวลภาพขึ้นมา ซึ่งนอกจากจะทราบผลของการตั้งครรภ์แล้ว ยังทำให้ทราบตำแหน่งของทารกในครรภ์ว่าฝังตัวอยู่บริเวณไหน โดยเฉพาะในกรณีที่มีการท้องนอกมดลูกเกิดขึ้น สูตินารีแพทย์ที่ทำการดูแลรักษาจะได้ทำการแก้ไขให้คุณแม่ได้ทันเวลา รวมถึงการเกิดทารกแฝด หรือการตรวจพบเนื้องอกในมดลูกก็จะช่วยให้รักษาได้ทันที นอกจากนี้เมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์หลัง 4 เดือนไปแล้ว ก็สามารถตรวจเพื่อดูเพศของลูกในครรภ์ และตรวจเพื่อคัดกรองความพิการได้อีกด้วย
การตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด ด้วยการตรวจทั้ง 4 วิธีซึ่งมีความสะดวก ความแม่นยำ และมีข้อดีที่แตกต่างกันไป หากใครสะดวกที่จะทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองก็ซื้อมาตรวจได้เลย แต่ควรตรวจครรภ์ตอนไหนดี แนะนำให้ตรวจเมื่อประจำเดือนขาด ด้วยการเลือกซื้อชุดตรวจที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ควรตรวจซ้ำไม่ว่าผลจะเป็นบวกหรือลบ เพื่อให้ได้ผลที่แน่นอนและเพื่อการวางแผนในการดูแลทารกในครรภ์ให้ถูกต้อง ทั้งนี้ควรมาพบสูตินารีเมื่อผลเป็นบวกตั้งแต่ทราบผล เพื่อจะได้ฝากครรภ์แต่เนิ่นๆ และดูแลสุขภาพครรภ์ให้แข็งแรง ปลอดภัยตลอดการตั้งครรภ์นั่นเอง
เรื่องอื่นๆ ที่เราแนะนำสำหรับคุณ