ในขณะที่ตั้งครรภ์ หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีเลือดออกมาจากช่องคลอดแสดงว่ามีอาการผิดปกติแล้วนะคะ การที่คุณแม่มี เลือดออกขณะตั้งครรภ์ ในแต่ละช่วงอายุครรภ์นั้นเกิดจากอะไร และส่งผลกระทบกับคุณแม่และทารกในครรภ์อย่างไรดูได้ดังนี้ค่ะ
เลือดออกขณะตั้งครรภ์ในช่วงอายุครรภ์ 1-27 สัปดาห์ เกิดจาก
1.ภาวะแท้ง หรือ แท้งคุกคาม
คุณแม่อาจจะมีเลือดออกกระปิดกระปรอย จนมีเลือดออกเยอะจนเกิดอาการตกเลือดได้ ถ้าคุณแม่พบว่าเลือดออกช่องคลอดให้รีบพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจสอบทารกในครรภ์ค่ะ
2.ท้องลม
ภาวะท้องลม คือ ไข่ที่ได้รับปฏิสนธิแล้วฝ่อ ไม่สามารถเจริญเติบโต หรือตั้งครรภ์ต่อไปได้ คุณแม่จะแท้งไปเองโดยธรรมชาติ
3.ทารกเสียชีวิตในครรภ์
คือ การผิดปกติบางอย่างทำให้ทารกไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้ คุณแม่จะมีอาการปวดท้องและมีเลือดออกจนทำให้แท้งในที่สุดค่ะ
4.อาการท้องนอกมดลูก
การท้องนอกมดลูก คือ การที่ไข่และอสุจิปฏิสนธิกันแล้วตัวอ่อนไม่ได้ไปฝังตัวอยู่ตรงโพรงมดลูก อาจจะไปฝังตัวอยู่ตรง ปีกมดลูก หรือตรงท่อนำไข่ คุณแม่จะมีอาการปวดท้องมาก มีความดันต่ำ หัวใจเต้นเร็วจนอาจจะช็อกได้ คุณแม่ต้องรีบพบแพทย์ทันทีค่ะ
เลือดออกขณะตั้งครรภ์ ในช่วงอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ เป็นต้นไป เกิดจาก
1.รกเกาะต่ำ
คือ ภาวะที่คุณแม่ตั้งครรภ์แล้วรกไม่ได้เกาะอยู่ในจุดที่เหมาะสม ซึ่งโดยปกติแล้วรกจะเกาะยึดอยู่ตรงส่วนด้านบนของมดลูก แต่ภาวะรกเกาะต่ำ คือจะเกาะลงมาอยู่ทางด้านล่างของมดลูก หรือครอบคลุมมาถึงปากมดลูก
2.รกลอกตัวก่อนกำหนด
มีสาเหตุอาจเกิดจากการโดนกระแทก หรือมีอาการครรภ์เป็นพิษ อาจจะทำให้เด็กเสียชีวิตได้เนื่องจาก ขาดออกซิเจน อาการคือ จะปวดท้องมาก ท้องจะแข็งตึง มดลูกจะโตขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะมีเลือดขังอยู่ภายใน ต้องรีบไปหาหมอทันที
3.มดลูกแตก
การแตกของมดลูก สามารถเกิดได้ในทุกระยะของการตั้งครรภ์ แต่ส่วนมากมักเกิดขึ้นในระยะเจ็บครรภ์ สิ่งที่น่ากังวลก็คือ ก่อนที่มดลูกใกล้จะแตกจะไม่มีอาการแสดงใด ๆ ที่บ่งบอกเลย อาจมีอาการปวดมดลูกหรือ มีไม่มาก หลังจากนั้นจะตามมาด้วยอาการแสดงของภาวะช็อค ได้แก่ชีพจรเต้นเร็ว ความดันต่ำ เนื่องจากมีการเสียเลือดมีเลือดออกในช่องท้อง
4.อาการคลอดก่อนกำหนด
กรณีนี้ถ้าเลือดออกทางช่องคลอดมาก่อนที่จะครบกำหนดคลอด แสดงว่ารกอาจจะลอกก่อนกำหนดจากผนังมดลูก ในปกติแล้วรกจะลอกตัวออกมาตอนที่เด็กคลอดออกมาแล้วค่ะ
ภาวะเลือดออกขณะตั้งครรภ์ยังมีอีกหลายสาเหตุ หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีเลือดออกทางช่องคลอดให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเกิดมาจากสาเหตุใดเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ