ลูกน้อยวัยทารกจนถึงประมาณ 1 ขวบปี ปัญหาหนึ่งที่มักพบได้บ่อยคือ อาการท้องเสีย แต่เมื่อไรก็ตามที่เด็กเกิดการท้องเสียผู้ใหญ่ในบ้านบางท่านมักมีความเชื่อสืบเนื่องมาจากสมัยโบราณว่า เด็กกำลังยืดตัว จริงเท็จแค่ไหนติดตามอ่านค่ะ
เด็กเล็กถ่ายแบบไหนจึงเรียกว่า “ท้องเสีย”
อาการท้องเสียดูง่าย ๆ จากการที่ความถี่ในการถ่ายอุจจาระ ท้องเสีย ตามความหมายขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ลักษณะของอุจจาระจะมีความเหลวเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ และถ่ายมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป หรือถ่ายเป็นมูกเลือด 1 ครั้ง หรือถ่ายเป็นน้ำ 1 ครั้ง ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง แต่ไม่รวมถึงเด็กที่กินนมแม่เพราะอาจจะมีอาการถ่ายเหลวได้
เด็กเล็กท้องเสียเพราะ ยืดตัว จริงหรือเท็จ
เรื่องอาการท้องเสียของเด็กเล็ก ที่ทำให้คุณหมอเด็กถึงกับกุมขมับหากคุณพ่อคุณแม่ถามว่า ลูกท้องเสียเพราะยืดตัว ใช่ไหม? ผศ.พญ.นิยะดา วิทยาศัย กุมารแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ให้ความรู้ในเรื่องนี้ว่า คำว่าท้องเสีย เพราะ “ยืดตัว” ไม่ใช่ความจริง
ธรรมชาติของเด็กภายในขวบปีแรกจะมีพัฒนาการของร่างกายจากนอนหงายเป็นนอนคว่ำ, คืบ, นั่ง, ยืน, เดิน ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องท้องเสียเลย ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะคิดว่าการยืดตัวทาให้เกิดปัญหาท้องเสีย เพราะท้องเสียมีสาเหตุต่าง ๆ โดยเฉพาะในเด็กเล็กนั้น 70 % เกิดจากร่างกายได้รับเชื้อโรคไม่ว่าจะเกิดจากการกินอาหาร การกินนมที่ปนเปื้อนเชื้อโรค ยิ่งช่วงวัยดังกล่าว อยู่ในวัยแห่งการเรียนรู้ หรือวัยซน ชอบหยิบจับของเล่นเอาเข้าปาก หรือแม้กระทั่งมือของเด็กเองซึ่งหยิบจับสิ่งของหรือคลานเล่นและเอาเชื้อโรคเข้าปากตัวเอง
อาการท้องเสีย แบบไหนต้องพบคุณหมอโดยด่วน
หากลูกน้อยมีอาการ ดังนี้ ต้องรีบไปพบคุณหมอโดยด่วน
- ถ่ายอุจจาระเป็นมูกหรือมูกเลือด
- ไข้สูงหรือมีอาการชัก
- อาเจียนบ่อย
- ท้องอืด
- หอบลึก ๆ
- ไม่ยอมดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ทุกชนิด หรือลูกน้อยไม่ยอมดื่มนมหรือกินอาหารใด ๆ เลย
- ดื่มสารละลายน้้ำตาลเกลือแร่แล้วแต่เด็กยังดูเพลียหรือยังมีอาการซึม
- ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำบ่อย ๆ มากกว่า 10 ครั้งต่อวัน
การพาลูกไปหาคุณหมออย่างเร่งด่วนหากมีอาการตามที่กล่าวมา เพื่อให้คุณหมอได้ตรวจวินิจฉัยร่างกายอย่างละเอียดหรืออาจจะต้องมีการตรวจพิเศษเกี่ยวกับช่องท้องและอุจจาระเพิ่มเติมหรืออาจจะต้องให้ยาปฏิชีวนะตามความจำเป็นขึ้นอยู่กับอาการ
ป้องกันไม่ให้ ลูกท้องเสีย ได้อย่างไร
สิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการท้องเสีย คือ การรักษาความสะอาด และยังมีวิธีการป้องกันอื่น ๆ อีก ดังนี้
1.เพื่อกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าปากทั้งนี้เริ่มต้นจากคุณพ่อคุณแม่หรือผู้เลี้ยงเด็กต้องล้างมือทุกครั้งก่อนจะหยิบจับอาหารหรือชงนม
2.การล้างทำความสะอาดขวดนม, จุกนม ต้องล้างทำความสะอาดหลังการใช้ทันทีและฆ่าเชื้อโดยการต้มจนเดือดอย่างน้อย 10–15 นาที ดังนั้น ควรมีขวดนมสำรองให้เพียงพอ
3.หากลูกน้อยกินนมชงหรือนมผสม การชงแต่ละครั้งควรให้ลูกกินให้หมดในครั้งเดียว หากกินไม่หมดควรมีฝาครอบจุกให้มิดชิดและไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน 2 ชม.
4.สำหรับเด็กที่สามารถกินอาหารได้แล้ว อาหารที่ให้ลูกทานนั้นควรเป็นอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ๆ หากต้องวางทิ้งไว้ควรมีฝาชีครอบเพื่อความสะอาดป้องกันแมลงวันอีกด้วย
5.อย่าลืมล้างมือให้เด็กบ่อย ๆ เพราะเด็กในวัยนี้จะชอบเอาของและมือตัวเองเข้าปาก ก็จะเป็นการนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายตัวเองด้วย
6.ของเล่นของลูกที่สามารถล้างทำความสะอาดได้ก็ควรนำไปล้าง แต่บางชนิดที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ก็ควรทิ้งหรือเปลี่ยนใหม่
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ