ในช่วงตั้งครรภ์ปัญหาผิวพรรณมีร้อยแปดพันประการก็ว่าได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่สูงขึ้นจากเดิมส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผิว มีปัญหาผดผื่น สิว ให้กวนใจ จนคุณแม่บางคนทนไม่ไหวต้องรีบรักษาสิวด่วน ๆ เรื่องสวย ๆ งาม ๆ แบบนี้ยอมไม่ได้…แต่ฟังทางนี้ก่อนนะคะ การรักษาสิวช่วงตั้งครรภ์อาจทำให้ลูกเสี่ยงพิการได้ มาดูข้อเท็จจริงกันค่ะ
ระวัง !!! รักษาสิวในช่วงตั้งครรภ์ ลูกเสี่ยงพิการ
ตามปกติแล้วในช่วงตั้งครรภ์ คุณหมอมักจะไม่แนะนำให้คุณแม่ใช้ยาอะไรมากมายนักเพราะเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ โดยเฉพาะยารักษาสิว
ยากลุ่มวิตามินเอ หรือเรตินอยด์ ได้แก่ กลุ่มยา Ratin A , Retinoic, Isotretinoin
ใช้รักษาสิวที่มีอาการอักเสบรุนแรง ความรุนแรงของยาส่งผลต่อทารกรุนแรงเช่นกัน คือ จะส่งผลให้ทารกพิการแต่กำเนิด หรือ พิการทางสมองได้ ดังนั้น หากจำเป็นต้องไปรับการรักษาสิวต้องแจ้งแก่คุณหมอทุกครั้งว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่
ที่สำคัญ สำหรับคุณแม่ที่ก่อนตั้งครรภ์เคยรักษาสิวและใช้ยากลุ่มนี้อยู่ ควรคุมกำเนิดก่อนกินยาอย่างอย่างน้อย 3 เดือน และคุมกำเนิดตลอดระยะเวลาที่ยังทานยากลุ่มนี้อยู่ และหยุดใช้ยาอย่างน้อย 3 เดือน ก่อนตั้งครรภ์
เข้าใจง่าย ๆ คือ หากอยู่ในช่วงรักษาสิวและทานยากลุ่มนี้ ต้องคุมกำเนิดเลยนะคะ และเมื่อไหร่ที่วางแผนจะตั้งครรภ์แล้ว ต้องหยุดยากลุ่มนี้ก่อนเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยค่ะ
ยากลุ่มเตตราไซคลิน ได้แก่ Tetracycline ,Doxycycline
ยากลุ่มนี้จัดอยู่ในกลุ่มปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษาสิวอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหากใช้ยาตัวนี้ในช่วงตั้งครรภ์ มีแนวโน้มว่าจะมีผลทำให้ลูกฟันเหลือง ความแข็งแรงของกระดูกและฟันของลูกจะลดลง
ยารักษาสิว Benzol peroxide
เป็นยารักษาสิวชนิดทาภายนอก แม้ว่าจะใช้ทาภายนอกในปริมาณที่ไม่มาก ไม่น่าจะส่งผลต่อทารกแต่ควรงดเว้นไปก่อนจะดีกว่าค่ะ
ดูแลสิวอย่างไรให้ปลอดภัยในช่วงตั้งครภ์
ในช่วงไตรมาสแรก 1 – 3 เดือน ปัญหาเรื่องผิวพรรณจะมีให้เห็นมากเพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่ขึ้นสูงอย่ารวดเร็วเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเจ้าตัวน้อย แต่หลังจากนั้นเมื่อฮอร์โมนเริ่มลดลงจะทำให้สิวลดลงตามไปด้วย และจะหายไปหลังจากคลอดลูกแล้ว แต่ในช่วงตั้งครรภ์นี้ในช่วงที่สิวพร้อมใจกันมาเยือน มาดูกันว่า จะมีการดูแลสิวอย่างปลอดภัยได้อย่างไร
1.ดูแลทำความสะอาด ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งด้วยสบู่หรือเจลล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิวหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง จำพวกหน้าขาวโอโม่ เปลี่ยนสีผิว เป็นต้น เพราะยิ่งใช้ผิวหน้าจะยิ่งแห้งระคายเคืองมากขึ้นอีกทั้งยังเป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารกน้อยอีกด้วย
2.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง นอกจากจะทำให้อ้วนแล้วยังเป็นตัวการทำให้เกิดสิวอีกด้วย
3.รับประทานอาหารทีมีประโยชน์กับผิว ทานผักและผลไม้สดที่ให้วิตามินซีสูง เช่น ดื่มน้ำลูกพรุน ส้ม จะช่วยในการขับถ่ายและบำรุงผิวพรรณให้สดใสอีกด้วย
4.ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น นอนหลับพักผ่อนให้พอ ทำจิตใจให้แจ่มใส เพราะสภาพจิตใจมีผลต่อผิวพรรณและการเกิดสิวได้นะคะ
5.หากผมยาวควรรวบหรือมัดให้เรียบร้อยจะได้ไม่มาปรกใบหน้า ลดปัญหาสิวบริเวณหน้าผาก ล้างมือและตัดเล็บให้สั้น หลีกเลี่ยงการสัมผัส แกะ กด บีบ สิวบนใบหน้า
Tip : สวยอย่างปลอดภัยด้วยสมุนไพรใกล้ตัว
สูตรมาร์คหน้า ด้วยโยเกิร์ต+มะนาวรักษาสิว
ส่วนผสม
1.โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
2.รำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำโยเกิร์ตผสมกับรำข้าวและน้ำผึ้ง คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว จะได้ครีมโยเกิร์ตสำหรับมาร์คหน้า
วิธีใช้
ล้างหน้าให้สะอาดซับหน้าให้แห้ง ใช้ครีมโยเกิร์ตพอกทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำประมาณ 3 – 4 ครั้ง / สัปดาห์ สูตรนี้ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ค่ะ
สูตรมาร์คหน้า น้ำผึ้งและกล้วยหอม
ส่วนผสม
1.กล้วยหอมสุก 1 ลูก
2.น้ำผึ้งแท้ 1 ถ้วย
วิธีทำ
นำกล้วยหอมมาปั่นหรือบดรวมกับน้ำผึ้งแท้จนละเอียดเป็นเนื้อครีมข้นและเหนียว เพื่อใช้สำหรับพอกหน้า
วิธีใช้
ล้างหน้าให้สะอาดซับหน้าให้แห้ง ใช้ครีมกล้วยหอมผสมน้ำผึ้งพอกทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำประมาณ 3 – 4 ครั้ง / สัปดาห์ ภายในเวลาไม่ถึงเดือน ผิวหน้าจะดูนุ่มนวลและสดใสขึ้น เพราะกล้วยหอมและน้ำผึ้งอุดมไปด้วยวิตามิน ช่วยบำรุงผิวพรรณได้อย่างดี
ได้ทราบแล้วนะคะว่ายารักษาสิวที่เป็นอันตรายต่อทารกน้อยนั้นมียาอะไรบ้าง ที่สำคัญการดูแลผิวพรรณ เราสามารถนำสิ่งที่อยู่ในบ้าน ในครัวของเรานี่แหละค่ะ มาเสริมความงามด้วยสูตรมาร์คหน้าที่นำเสนอไป ลองนำไปใช้ดูนะคะ รับรองไม่ผิดหวัง
แต่มีคำแนะนำสำหรับผู้แพ้ละอองเกสรไม่ควรใช้น้ำผึ้งนะคะ เพราะจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ทางที่ดีควรทดสอบก่อนการใช้ด้วยการทาไปที่บริเวณท้องแขน ซึ่งมีลักษณะอ่อนนุ่มคล้ายผิวหน้าเพื่อดูปฏิกริยาว่าแพ้หรือไม่เพื่อความปลอดภัยค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ
- ท้อง 38 สัปดาห์ ยากระตุ้นคลอด จำเป็นหรือไม่ หากไม่เจ็บครรภ์
- แนะนำยาน้ำสูตรสมุนไพร แก้ไข้ ร้อนใน “อ้วยอันโอสถ” เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี
- ลดปัญหาลูกสมองพิการ ด้วยโฟเลตตอนตั้งครรภ์