การอยู่เดือน-การอยู่ไฟ คืออะไร เป็นสิ่งเดียวกันหรือไม่ และมีความสำคัญอย่างไร

40010
- Advertisement -

คนทั่วไปรวมถึง คุณแม่ที่ตั้งครรภ์หรือคุณแม่ที่คลอดแล้วทั้งหลาย คงจะเคยได้ยินคำว่า “อยู่ไฟ” อยู่บ่อยครั้ง หากแต่คุณแม่เคยได้ยินคำว่า “อยู่เดือน” ด้วยหรือไม่? หลาย ๆ ท่านอาจจะบอกว่าเคยได้ยินคำว่า “อยู่เดือน” มาบ้างแล้ว แต่หลาย ๆ ท่านอาจเกิดความสับสนระหว่างคำว่า อยู่เดือน กับ อยู่ไฟ ว่าคือสิ่งเดียวกันรึเปล่า แล้วอะไรคือวัตถุประสงค์ หรือประโยชน์ของ การอยู่เดือน-อยู่ไฟ ในวันนี้เลยอยากจะมาคลายข้อสงสัยให้ว่าที่คุณแม่และคุณแม่ทั้งหลายได้อ่านกันค่ะ

melamaru 01

การอยู่เดือน คืออะไร?

การอยู่เดือนคือธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาแต่โบราณ คุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกไม่ว่าจะคลอดธรรมชาติ หรือผ่าคลอด ล้วนมีความบอบช้ำจากการคลอดทั้งสิ้น ดังนั้นการอยู่เดือนจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คุณแม่หลังคลอดได้พักฟื้น, ปรับสมดุลร่างกาย และพักผ่อนอยู่กับบ้านเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม มีเวลาปรับตัวทั้งสภาพกายและสภาพจิตใจหลังจากคลอด และสามารถมีเวลาเลี้ยงลูกน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้อย่างเต็มที่ จึงมีข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติต่าง ๆ ระหว่างอยู่เดือนเพื่อให้คุณแม่กลับมาแข็งแรงเป็นปกติได้โดยเร็ว เป็นต้นว่า

  • ห้ามออกจากบ้าน ไปตากลมตากฝน เพราะเกรงว่าจะป่วย
  • ห้ามยกของหนัก เพราะแผลภายในยังไม่หายดี อาจจะทำให้เกิดภาวะตกเลือดได้
  • ห้ามสระผม เพราะเกรงว่าถ้าผมเปียกโดนลมเย็นอาจจะป่วยได้ง่าย
  • ให้ทานของร้อน เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายอยู่เสมอ
  • และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การอาบน้ำต้มตะไคร้/อาบน้ำต้มสมุนไพร เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น เลือดลมไหลเวียนดี น้ำนมไหลสะดวก และช่วยดับกลิ่นคาวเลือดที่ยังออกมาหลังจากการคลอดบุตร และรู้สึกผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงลูก

การอยู่เดือน _melamaru

การอยู่ไฟ คืออะไร?

อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า การอยู่เดือนจะเริ่มตั้งแต่คุณแม่คลอดน้องออกมาตั้งแต่วันแรกและกลับบ้านมาพักฟื้นเป็นเวลา 1 เดือน ส่วนการอยู่ไฟจะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาแต่โบราณเช่นกันซึ่งกรณีคลอดธรรมชาติ จะเริ่มอยู่ไฟได้ตั้งแต่ 7-30 วันหลังคลอด ส่วนกรณีผ่าคลอด จะเริ่มอยู่ไฟได้ตอน 30 – 45 วัน หลังคลอด โดยการอยู่ไฟจะใช้ศาสตร์ของการนำความร้อนเข้ามาช่วยในการปรับสมดุลให้กับร่างกาย ให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย รวมถึงช่วยให้มดลูกที่ขยายตัวกลับเข้าอู่เป็นปกติ และที่สำคัญช่วยขับน้ำคาวปลา หรือเลือดเสียที่คั่งค้างอยู่ในร่างกายคุณแม่ระหว่างการคลอดบุตร ลดการติดเชื้ออักเสบในโพรงมดลูก โดยจะมีขั้นตอนการอยู่ไฟต่าง ๆ ดังนี้

  • การนวดประคบ เพื่อช่วยลดความเมื่อยล้า
  • การเข้ากระโจมอบสมุนไพร จะช่วยให้รูขุมขนเปิดเพื่อขจัดสิ่งสกปรก รวมถึงให้สมุนไพรซึมผ่านผิวหนังบำรุงผิวพรรณให้ดูเปล่งปลั่ง ช่วยขับน้ำคาวปลา และบางคนก็เชื่อว่าเป็นการช่วยลดน้ำหนักได้อีกทางหนึ่ง
  • การนาบหม้อเกลือ เพื่อช่วยเปิดรูขุมขนกำจัดของเสีย และช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น
  • การขัดบำรุงผิว เพื่อช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพและบำรุงผิวให้กลับมาดูเปล่งปลั่งอีกครั้ง
  • การดื่มน้ำสมุนไพร เพื่อช่วยกระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนดี

การอยู่เดือน melamaru03

ทำไมถึงต้องอยู่เดือน-อยู่ไฟ

การอยู่เดือน-อยู่ไฟ ที่กล่าวไปแล้วข้างต้น คือกระบวนการที่มีมาแต่โบราณเพื่อช่วยในการปรับสมดุลเลือดลมในร่างกายของคุณแม่หลังคลอดให้กลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด เพราะหากเลือดลมไม่ดี น้ำเหลืองไม่ดี ทำให้ร่างกายไม่สามารถขับเลือดเสียที่เกิดจากการคลอดบุตรออกมาได้หมดแล้ว เลือดเสียนั้นจะกลายเป็นพิษที่คั่งค้างอยู่ในร่างกาย จะส่งผลออกมาให้เห็นภายในนอกต่าง ๆ เช่น อาการคล้ายลมพิษแบบไม่มีสาเหตุ มีผื่นแดงคันเมื่ออากาศร้อน หรือเย็น หนาวสะท้านเข้ากระดูก มีไข้ หรือตอนแรกอาจจะดูเป็นปกติดี แต่จะเริ่มออกอาการให้เห็นในช่วงต่อ ๆ มา เช่น เรื่องของประจำเดือนที่มาไม่ปกติ อาการขี้หนาว หรือมีเหงื่อออกมากตามมือและเท้า เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่ธรรมเนียมการอยู่เดือน-อยู่ไฟ ยังได้รับความนิยม และยังคงมีอยู่ต่อเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน

สำหรับคุณแม่ที่วางแผนจะอยู่ไฟอยู่แล้ว แต่ว่าเริ่มสงสัยว่าแล้วยังจำเป็นจะต้อง อยู่เดือน ควบคู่ไปด้วยกันหรือไม่ จะขออธิบายให้เห็นภาพสั้น ๆ ว่า การอยู่เดือน และการอยู่ไฟ จะมีช่วงเวลาที่เริ่มดูแลตัวเองแตกต่างกัน คนที่อยู่เดือนจะเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันแรกที่กลับบ้าน ในขณะที่คุณแม่ที่ตั้งใจจะอยู่ไฟอย่างเดียวจะมาเริ่มดูแลฟื้นฟูร่างกายเมื่อเวลาผ่านไปมากกว่าสัปดาห์ถึงหนึ่งเดือนหลังคลอดไปแล้ว ดังนั้นคุณแม่ที่เริ่มอยู่เดือนตั้งแต่หลังคลอดและอยู่ไฟต่อจากนั้น ย่อมฟื้นฟูร่างกายได้ดีและเร็วกว่าคุณแม่ที่อยู่ไฟเพียงอย่างเดียว

อยู่เดือน _melamaru04

ตัวช่วยในการอยู่เดือน-อยู่ไฟ สำหรับคุณแม่ยุคใหม่

ว่าที่คุณแม่ หรือคุณแม่หลาย ๆ ท่านล้วนอยากจะอยู่เดือน-อยู่ไฟ ให้ครบสูตรเหมือนคนอื่นเค้า แต่จะมีความรู้สึกว่ามีความยุ่งยาก ไม่มีเวลา ไม่สะดวกในการตระเตรียม โดยเฉพาะเรื่องของการเตรียมอาบน้ำต้มตะไคร้/ต้มสมุนไพร, การเตรียมสมุนไพรในการอบตัว และขัดผิว ซึ่งมักจะเกิดปัญหานี้กับคุณแม่ที่อยู่ในครอบครัวเดี่ยว ที่อยู่กันแค่ พ่อแม่ลูก ไม่มีญาติพี่น้องมาคอยช่วย จึงต้องถอดใจกันไป ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะเห็นว่ามีบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณแม่ในการอยู่ไฟ เช่นบริการแพคเกจอยู่ไฟเป็นต้น แต่บางท่านก็ยังรู้สึกว่ามีค่าใช้จ่ายสูง แถมไม่มีเวลาที่จะอยู่ไฟต่อเนื่องหลาย ๆ วัน (ประมาณ 1-2 สัปดาห์) เพราะฝากใครช่วยเลี้ยงลูกไม่ได้

อยู่เดือน _melamaru05ดังนั้นปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้คุณแม่สามารถอาบน้ำตะไคร้สมุนไพร/ขัดผิว/อบตัว ในช่วง อยู่เดือน, อยู่ไฟ ได้อย่างง่ายด้วยตัวเอง ทุกอย่างรวมอยู่ในซองเดียว เพียงผสมน้ำอุ่นจัด (สามารถใช้น้ำจากฝักบัวได้) เพียง 5 ลิตร ต่อผลิตภัณฑ์ 1 ซอง ใช้อาบเป็นน้ำสุดท้ายเทียบเท่ากับการอาบน้ำต้มตะไคร้/สมุนไพรแบบดั้งเดิม ก็สามารถอยู่เดือนได้ครบสูตรแบบง่าย ๆ ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีก็สามารถกลับไปดูแลลูกน้อยได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งในช่วงอยู่ไฟยังสามารถนำไปเป็นเกลือขัดผิว และเป็นสมุนไพรอบตัวได้อีกด้วย ที่สำคัญ อบตัวเสร็จแล้ว ยังสามารถนำน้ำที่ต้มกลับมาอาบได้ต่อโดยไม่เสียของและไม่ทิ้งเศษสมุนไพรให้อุดตันท่อน้ำด้วย ผลิตภัณฑ์เมล่ามารุขอเป็นกำลังใจให้กับคุณแม่ทุกท่านให้สามารถเลี้ยงดูลูกน้อยได้อย่างเต็มที่ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูสภาพร่างกายทั้งภายในและภายนอกด้วยตัวเองอย่างง่ายดายนะคะ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/MelaMaru

- Advertisement -