fbpx
Homeเรื่องน่ารู้ข่าวภรรยาช็อก! สามีสำลักส้มตำเสียชีวิต ต่อหน้าต่อตา

ภรรยาช็อก! สามีสำลักส้มตำเสียชีวิต ต่อหน้าต่อตา

เรื่องสำลักอาหารจนเสียชีวิตไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยค่ะ อย่างที่ทางทีมงานแม่รักลูกได้เตือนคุณพ่อคุณแม่ไปบ่อย ๆ ว่าการสำลักอาหารนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทางที่ดีควรเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นไว้ดีที่สุดค่ะ

เพราะการสำลักอาหารไม่ได้เกิดแค่ในเด็ก ขนาดผู้ใหญ่ที่โตแล้วดูแลตัวเองได้ยังสำลักอาหาร จนเสียชีวิตได้ ดังเช่นเรื่องที่จะนำเสนอต่อไปนี้เป็นข่าวที่สามีกินส้มตำ กับภรรยา จนเกิดอาการสำลัก ตายไปต่อหน้าต่อตา เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้แต่ก็เกิดขึ้นมาแล้ว ดังนั้น เวลาจะให้อาหารลูกทั้งนมและอาหารเสริมควรระวัง และ ดูแลให้ดี ๆ นะคะ

เหตุการณ์สลดใจดังกล่าวเกิดขึ้นที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อวช่วงบ่ายวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยร.ต.ท.วรฉัตร ฉลวยแสง รองสว.(สอบสวน)สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 23/60 ซอยธรรมสุธีร์ 10 หมู่ 6 ต.บางเดื่อ อ.เมืองปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ ที่ชั้นล่างกลางห้อง พบศพนายน้อย บุญฟัก อายุ 52 ปี บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่ 32/2 ม.3 ต.ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี นอนหงายอยู่ โดยปลายเท้ามีเศษอาหารเป็นเส้นมะละกอจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชันสูตรตามร่างกายไม่พบบาดแผลใดๆ

จากการสอบสวน น.ส.ยุพา โควิน อายุ 48 ปี ภรรยาผู้ตายให้การว่า ผู้ตายเป็นช่างรับเหมาต่อเติมและเป็นช่างไม้ และน.ส.บุญนำ สุขสุเพ็ชร์ อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวและเป็นเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ว่าจ้างให้มาต่อเติมบ้านได้ประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว และวันนี้ได้ทำเสร็จเรียบร้อย จากนั้นตอนเที่ยง ผู้ตายและตนก็เตรียมตัวกลับ แต่ผู้ตายอยากกินก๋วยเตี๋ยว ตนจึงออกไปหาซื้อก๋วยเตี๋ยว แต่ไม่มีขาย และกลับเข้ามาบอกผู้ชายว่า มีแต่ส้มตำ ข้าวเหนียวไก่ย่าง

น.ส.ยุพากล่าวว่า ผู้ตายจึงสั่งให้ซื้อส้มตำปูปลาร้าแบบเผ็ดๆ ตนจึงซื้อมาพร้อมกับส้มตำไทย ไก่ย่าง ขณะที่ผู้ตายกินส้มตำจนหมดจาน จู่ๆเกิดอาการตัวเกร็งและชักต่อหน้าต่อตา ตนจึงได้ตะโกนเรียกพี่สาว ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านให้มาช่วยพี่สาวจริง ใช้มือพยายามกดด้านหลัง ทำให้เส้นมะละกอกระเด็นออกมา ก่อนที่สามีตนนอนหงายและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงได้แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว

เบื้องต้นทางด้านเจ้าที่ตำรวจได้มอบศพให้มูลนิธิฯนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง

โดยเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจโต แต่สาเหตุยังไม่แน่ว่าเกี่ยวกับโรคประจำตัวหรือไม่ ต้องรอผลจากการผ่าพิสูจน์อีกครั้ง

ที่มา:khaosod

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular