วันจันทร์นี้ (13 มี.ค.) พนักงานสอบสวนเชิญครอบครัวของ “เบนซ์ เรซซิ่ง” รวมถึง แพท ณปภา ตันตระกูล ภรรยาของนายเบนซ์ มาสอบปากคำเกี่ยวกับที่มาของทรัพย์สิน และรายได้ต่างๆ หลังตรวจเส้นทางธุรกรรมการเงินกว่า 100 ล้านบาทที่อาจเชื่อมโยงยังบุคคลหลายกลุ่ม และมีเงินกว่า 30 ล้านบาทหมุนเวียนในบัญชีของแพท
จากกรณีนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง สามีดาราสาว ‘แพท ณปภา ตันตระกูล’ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาสมคบคิดและฟอกเงินกับตำรวจ บช.ปส. หลังพบความผิดปกติเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน โดยในรอบ 2 ปีมีเงินหมุนเวียนในธนาคารมากถึง 100 ล้านบาท ก่อนได้ประกันตัวในชั้นศาล พร้อมเตรียมเรียก ‘แพท ณปภา’ และแม่ของเบนซ์ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกแพท เนื่องจากพบเงินหมุนเวียนในบัญชี 30 ล้านบาท
ล่าสุดวันนี้ (11 มี.ค.) แพท-ณปภา ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า
“งงและตกใจกับข่าวที่ออกมาว่ามีการแจ้งข้อหาตนแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรเลย เท่าที่รู้คือทางเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกวันศุกร์ที่ผ่านมาให้ตนเข้าไปพบ อย่างที่เคยบอกว่าเจ้าหน้าต้องตรวจสอบทุกคนที่ใกล้ชิดพี่เบนซ์อยู่แล้ว ข่าวที่ออกมาตนได้คุยกับพี่เบนซ์ ซึ่งก็บอกว่าไม่ได้มีการแจ้งข้อหาตน แค่เรียกไปพบเฉย ๆ ส่วนวันที่จะเข้าไปพบทางตนจะเป็นคนกำหนด เพราะตนต้องเลี้ยงลูก”
ดาราสาว กล่าวต่อว่า ส่วนที่บอกว่า มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของตน พบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชี 30 ล้านบาทนั้น ต้องเข้าใจว่าตนอยู่วงการบันเทิงมา 15 ปี ทำงานหนักมาตลอด จริงๆ เงินจำนวน 30 ล้านบาทนับว่าน้อยไปด้วยซ้ำ ซึ่งตนยินดีให้ข้อมูล และความร่วมมือทุกอย่างตามที่เคยบอกไป เพราะเชื่อในความบริสุทธิ์ของตัวเอง
เมื่อเช้าตื่นมาก็งงว่าทำไมมีคนเข้ามาให้กำลังใจในไอจีเยอะ จนมีพี่ที่ข่าวสดสอบถามถึงได้ทราบเรื่อง พอได้เห็นข่าวจากบางที่แล้วตกใจมากว่า ทำไมถึงมีเนื้อหารุนแรงขนาดนั้น ใช้คำว่า “ไม่รอด หลักฐานมัด แจ้งข้อหาฟอกเงิน นำตัวฝากขังที่ศาล”
คือมันดูแรงเกินไป เพราะไม่มีอะไรแบบนั้น แต่ละวันแพทมีหน้าที่เลี้ยงลูก ซึ่งค่อนข้างเหนื่อยอยู่แล้ว ไม่อยากให้มีอะไรที่ไม่ใช่ความจริงมากระทบจิตใจอีกค่ะ
ที่มา:ข่าวสด
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ