fbpx
Homeเรื่องน่ารู้เรื่องน่ารู้ของลูกน้อยเด็กที่ไม่นั่ง คาร์ซีท พ่อแม่ต้องถูกปรับ 2 หมื่นบาท ที่อังกฤษ

เด็กที่ไม่นั่ง คาร์ซีท พ่อแม่ต้องถูกปรับ 2 หมื่นบาท ที่อังกฤษ

กฎหมายใหม่ในอังกฤษออกแล้ว เด็กที่ไม่นั่ง คาร์ซีท หรือ นั่งไม่ถูกต้องจะถูกปรับสูงสุดถึง 500 ปอนด์ หรือประมาณ 21,654 บาท เลยทีเดียว

พ่อแม่ยุคใหม่ต้องรู้กฎหมายเรื่องความปลอดภัยหากต้องพาเด็กนั่งรถโดยสารไปไหนมาไหนด้วย ถ้าคุณอยู่ในประเทศไทยอาจจะไม่ใช่ปัญหาถ้าคุณไม่ได้ให้ลูกนั่งคาร์ซีท แต่ถ้าคุณอยู่ในต่างประเทศคุณจะโดนตำรวจจับและปรับเงินเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ

ข้อกำหนดของเด็กที่ต้องนั่ง คาร์ซีท ตามกฎหมาย มีดังนี้

1. เด็กแรกเกิดถึงประมาณ 3 ขวบ ควรติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะหลังคนขับ และให้ลูกหันหน้าไปด้านหลังรถ เพราะหากเกิดการเบรกรุนแรง จะช่วยปกป้องคอ ศีรษะและกระดูกสันหลังของลูก ได้ดีกว่าการนั่งแบบหันหน้าค่ะ

2. เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือมีความสูงน้อยกว่า 135 เซนติเมตร ต้องนั่งคาร์ซีท หรือ booster seat

3. เด็กที่มีอายุมากกว่า 12 ปี หรือมีความสูงมากกว่า 135 เซนติเมตร สามารถใช้ที่นั่งในรถได้ตามปกติไม่จำเป็นต้องใช้ booster seat

4. ห้ามติดตั้งคาร์ซีทตรงเบาะหน้ารถเด็ดขาด เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุถุงลมนิรภัยจะอัดกระแทกตัวเด็กทำให้เสียชีวิตได้ค่ะ

5. ถ้าส่วนสูงของลูกไม่ตรงกับข้อกำหนดในการใช้คาร์ซีท ให้ดูที่น้ำหนักตัวของลูกเป็นหลักค่ะ

ในต่างประเทศเด็กที่สามารถนั่งรถได้โดยไม่โดนปรับ คือ นั่งแท็กซี่ รถมินิบัส หรือ รถตู้ได้ค่ะ แต่สำหรับรถยนต์ส่วนตัวต้องให้ติดตั้งคาร์ซีทให้ลูกนั่งตลอดการเดินทางค่ะ

สำหรับในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายความคุ้มครองเด็กเรื่องความปลอดภัยเวลาโดยสารรถส่วนตัวออกมาแบบเข้มงวด จะเห็นว่าใน 1 ปี จะมีเด็กที่เสียชีวิตจากการโดยสารรถยนต์ประมาณปีละ 250-300 คน โดยส่วนใหญ่มากจากรถยนต์ 4 ที่นั่ง และ รถกระบะ เด็กที่เสียชีวิตเหล่านี้จะมีอายุต่ำกว่า 15 ปี

เหตุผลหลัก ๆ ที่เด็กต้องนั่ง คาร์ซีท คือ

ความแตกต่างของโครงสร้างร่างกายระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ ซึ่งเด็กจะยังมีการเจริญเติบโตของร่างกายไม่เต็มที่ เช่น ขนาดของศีรษะของเด็กที่มีขนาดใหญ่ประมาณร้อยละ 60 ของร่างกายจะทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุกระดูกต้นคอหักง่าย มีเลือดออกในกะโหลกศีรษะและปอดง่าย รวมถึงตับและม้ามของเด็กจะแล่บออกมาทำให้ตับแตกม้ามแตกได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่

และเมื่อเด็กใช้ผลิตภัณฑ์ในรถยนต์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่ เช่น เบาะที่นั่งรถยนต์ รวมถึงตำแหน่งเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ ยังเพิ่มโอกาสให้เด็กได้รับบาดเจ็บสูงขึ้น เนื่องจากเป็นการออกแบบสำหรับผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ การที่เด็กมีรูปร่างต่างจากผู้ใหญ่ไปนั่งผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่จะทำให้เกิดอันตรายได้

ดังนั้น การใช้ระบบยึดเหนี่ยวตัวเด็กบนยานพาหนะ ซึ่งประกอบไปด้วยเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือเบาะเสริม ร่วมกับการใช้เข็มขัดนิรภัย มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตเด็ก ในต่างประเทศจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงได้มีกฎหมายกำหนดในเรื่องนี้อย่างชัดเจน

ตัวอย่างประเทศที่ให้ความสำคัญเรื่อง คาร์ซีท

อย่างเช่น รัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกาเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นในการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก โดยเริ่มตั้งแต่ให้ความรู้ในเรื่องการใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กกับแม่ที่มาคลอด ตั้งแต่ก่อนออกจากโรงพยาบาล เมื่อถึงวันที่จะพาลูกกลับบ้านนางพยาบาลจะคอยให้คำแนะนำ และถามพ่อแม่ว่า มี car seat ในรถหรือยัง เพราะถ้าหากไม่มี car seat ก็ไม่สามารถพาลูกออกจากโรงพยาบาลได้

ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่เพียงแต่พ่อแม่และผู้ปกครองที่มีบทบาทสำคัญกับเรื่องนี้เท่านั้น หน่วยงานภาครัฐยังเข้ามามีบทบาทในการกระตุ้นและส่งเสริมให้พ่อแม่และผู้ปกครองใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิด โดยการให้ความรู้เพื่อปรับทัศนคติที่ถูกต้องว่า “การใช้ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กจะช่วยปกป้องชีวิตลูกน้อยได้อย่างแน่นอน”

ในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความปลอดภัยสำหรับเด็กออกมามากมาย คาร์ซีทก็เป็นอีกอุปกรณ์สำคัญที่มีให้คุณพ่อคุณแม่เลือกใช้ มีตั้งแต่ราคาถูกถึงแพง แต่สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่อยู่ที่มาตรฐานความปลอดภัย และการติดตั้งแบบถูกวิธี บ้านไหนมีลูกเล็ก ควรติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของเด็กนะคะ

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular