การเก็บสเต็มเซลล์ของลูก
วิวัฒนาการการแพทย์ในปัจจุบันมีความเจริญก้าวหน้ามากมาย วิธีการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคที่เกี่ยวกับเลือดด้วย สเต็มเซลล์ ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง คุณแม่หลายท่านเองก็คงเคยได้ยินเรื่องการเก็บสเต็มเซลล์ของลูกกันมาบ้าง เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องสเต็มเซลล์นี้ให้มากขึ้นกันค่ะ
สเต็มเซลล์ คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร
สเต็มเซลล์หรือ เซลล์ต้นกำเนิด มีคุณสมบัติพิเศษในการแบ่งตัวให้เป็นเซลล์ของเนื้อเยื่อชนิดต่างๆในร่างกายได้ โดยยังคงมีความสามารถในการแบ่งตัวเองให้เป็นเซลล์ต้นกำเนิดเหมือนเดิมด้วย และสามารถพัฒนาเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่จำเพาะได้ ปัจจุบันได้มีนักวิจัยมากมายที่สนใจในการนำสเต็มเซลล์มาใช้ในการรักษาโรค เช่น ธาลัสซีเมีย ลิวคิเมีย อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน อัมพาตไขสันหลัง กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เบาหวาน ให้หายขาดได้
การเก็บสเต็มเซลล์
การเก็บสเต็มเซลล์ของลูกนั้นเราจะเก็บจากเลือดในรกและสายสะดือ โดยจะทำทันทีหลังจากที่ทารกคลอดออกมา สเต็มเซลล์จะถูกแช่แข็งและเก็บรักษาไว้ในไนโตรเจนเหลว ซึ่งไม่ทำให้เซลล์สูญเสียความสามารถในการมีชีวิตและยังมีประสิทธิภาพในการทำงานเมื่อนำมาใช้งาน โดยจะมีประสิทธิภาพสูงสุด 20 ปี หลังจากนั้นจะลดประสิทธิภาพลงเรื่อย ๆ
การเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดในรกและสายสะดือ เป็นวิธีการที่ไม่มีผลกระทบใด ๆ กับแม่และลูก และยังมีประโยชน์ในการช่วยรักษาโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับเลือด แต่ก็มีข้อจำกัดคือ ปริมาณเลือดที่เก็บได้ จะมีแค่ 50-200 cc. เท่านั้น ซึ่งจะเพียงพอสำหรับการใช้ปลูกถ่ายเพื่อการรักษาโรคในคนที่มีน้ำหนักตัวไม่ถึง 40 กิโลกรัม
เพราะอะไรถึงต้องเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดในรกและสายสะดือ?
ในสายสะดือของทารกจะมีส่วนที่เรียกว่า Wharton’s jelly ซึ่งอุดมไปด้วย มีเซนไคมอล สเต็มเซลล์ (Mesenchymal stem cell) ซึ่งเป็นสเต็มเซลล์ต้นกำเนิดของเซลล์ของอวัยวะต่าง ๆ และยังมีเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และเพิ่มอัตราการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากเลือดให้ประสบผลสำเร็จมากขึ้น ช่วยลดการต่อต้านเนื้อเยื้อ (GVHD) พร้อมทั้งลดการปฏิเสธเซลล์ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ประสิทธิภาพการปลูกถ่ายจะสำเร็จเพิ่มมากขึ้นหากใช้ร่วมกันในการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากเลือดในสายสะดือ
ทางเลือกในการเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดในรกและสายสะดือมีอะไรบ้าง
- Public banking คือ การเก็บสเต็มเซลล์ในรูปแบบของการบริจาคให้กับศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย การเก็บในรูปแบบนี้ มีวัตถุประสงค์เหมือนกับการบริจาคเลือดค่ะ ไม่เจาะจงตัวผู้รับ โดยคุณแม่สามารถแจ้งความจำนงไปที่ศูนย์บริการโลหิตฯได้ เมื่อคลอดลูกทางศูนย์บริการโลหิตฯจะรีบมารับสเต็มเซลล์ไปเก็บรักษา โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ค่ะ
- Private banking คือ การเก็บสเต็มเซลล์ไว้เพื่อตัวเองและครอบครัว กรณีนี้ทางศูนย์บริการโลหิตฯจะไม่มีหน้าที่ดำเนินการให้ค่ะ แต่จะมีบริษัทเอกชนเป็นผู้ให้บริการ ซึ่งจะต้องติดต่อไปที่บริษัท ทำสัญญา และมีค่าใช้จ่ายและค่าบริการายปีที่ค่อนข้างสูงค่ะ
คุณแม่ที่กำลังตัดสินใจว่าจะเก็บสเต็มเซลล์จากเลือดในรกและสายสะดือของลูกดีหรือไม่ เพราะหากเลือกใช้บริการเก็บสเต็มเซลล์จากบริษัทเอกชนผู้ให้บริการก็จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และมีโอกาสได้ใช้น้อย ซึ่งดูเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์ ก็แนะนำว่าให้แจ้งความประสงค์ขอบริจาคให้กับศูนย์บริการโลหิตสภากาชาดไทยดีกว่าค่ะ นอกจากจะไม่มีค่าบริการแล้วยังได้บุญอีกด้วยนะคะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ