fbpx
Homeการตั้งครรภ์"ไม่รู้ว่าท้อง" รู้อีกทีตอนคลอด เป็นไปได้เหรอ? หมอสูติ มีคำตอบ

“ไม่รู้ว่าท้อง” รู้อีกทีตอนคลอด เป็นไปได้เหรอ? หมอสูติ มีคำตอบ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้หลายท่านอาจเคยได้อ่านข่าวมีผู้หญิงที่คลอดลูก แต่กลับบอกว่าไม่รู้ว่าตั้งครรภ์ ซึ่งพบทั้งในบ้านเราและในต่างประเทศ ทำเอาหลายคนเกิดความสงสัยว่าจะเป็นไปได้เหรอที่คนเราตั้งครรภ์ตั้ง 8-9 เดือนแล้วจะไม่รู้ว่าตัวเองท้อง

เกิดเป็นคำถามขึ้นมามากมาย เช่น ระหว่างท้องไม่มีอาการแพ้ท้องเลยหรือ? ลูกไม่ดิ้นเลยหรือ? ประจำเดือนขาดไม่เอะใจบ้างหรือ?

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ. นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ปธ.ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า

กรณีนี้สามารถเกิดขึ้นได้ หากฝ่ายหญิงไม่ใส่ใจการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย โดยวิธีสังเกตประจำเดือน หากทิ้งช่วงเป็นระยะเวลาหลายเดือนนั้นควรเฉลียวใจแล้วว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ทั้งนี้อาการประจำเดือนมาขาด ๆ หาย ๆ นั้นจะพบมากในช่วงวัยรุ่นตอนต้น และจะเป็นปกติเมื่อเข้าสู่วัยสาว อย่างไรก็ดีต้องหมั่นสังเกตร่างกายของตนเองอย่างสม่ำเสมอ หากประจำเดือนไม่มาตามกำหนด 1-2 สัปดาห์ ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยอุปกรณ์ตรวจ หรือหากไม่มั่นใจก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด

สำหรับหญิงตั้งครรภ์นั้น ในระยะ 4-5 เดือนแรก ผู้เป็นแม่จะรู้สึกได้ว่าเด็กในครรภ์ขยับตัวและดิ้นไป-มา แต่ก็มีบางรายที่ไม่รู้สึกเช่นนั้น เพราะบางรายอ้างเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่าระบบทางเดินอาหาร ท้องไส้ปั่นป่วน มีปัญหาด้านลำไส้ เป็นต้น และอาจรวมไปถึงอ้วนหรือเปล่า จึงทำให้ไม่รู้ตัวหรือเฉลียวใจว่าตัวเองนั้นกำลังตั้งครรภ์

ส่วนอาการแพ้ท้องบางรายอาจไม่เกิดขึ้นก็มี แต่กลับรับประทานได้ในปริมาณมากกว่าเดิม และเป็นส่วนน้อยมากที่ผู้หญิงจะแสดงอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง อีกทั้งอาการแพ้ท้องจะไม่แสดงให้เห็นตลอดทั้ง 9 เดือน แต่จะมีเพียงช่วง 3-4 เดือนแรกเท่านั้น อาการแพ้ท้องต่าง ๆ ก็จะหายไป

ดร.ไบรอัน จิก สูตินรีแพทย์และผู้ก่อตั้งคลินิกด้านการผดุงครรภ์ Fair Oaks Women’s Health ในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า

การไม่รู้ว่าตัวเองท้อง เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ จากสถิติพบว่า ผู้หญิงราว 1ใน 500 ราย ไม่รู้ว่าตัวเองท้องจนกระทั่ง ตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5 เดือน และนอกจากนี้ จำนวน 1 ใน 7,200 ราย ไม่รู้ว่าตัวเองท้องจนกระทั่งเจ็บท้องคลอดลูกออกมา

โดยสาเหตุอาจเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นมีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ และคิดว่าประจำเดือนขาดเป็นเรื่องปกติ รวมถึงการไม่มีอาการน้ำหนักเพิ่ม หน้าท้องขยาย ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ ในกรณีที่ผู้หญิงรายนั้นเป็นคนอ้วน หรือบางรายอาจมีอาการที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ แต่กลับไม่สนใจ เพราะคิดว่าตัวเองคงไม่ท้องแน่ ๆ

นอกจากนี้ยังพบกรณีการ “ไม่รู้ว่าตัวเองท้อง” ทั้ง ๆ ที่ใช้ชุดตรวจตั้งครรภ์จากการตรวจปัสสาวะ แล้วผลจากการใช้ชุดตรวจตั้งครรภ์ก็แสดงผลเพียงหนึ่งขีด แปลว่าไม่ตั้งครรภ์ แต่กลับตั้งครรภ์ได้อย่างไร?

นีล แมคคลูร์ ศาสตราจารย์ด้านสูตินรีเวชศาสตร์จาก Queen’s University Belfast สหราชอาณาจักร ให้ข้อมูลว่าการที่อุปกรณ์ตรวจตั้งครรภ์แสดงผลว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ ทั้งที่ความจริงแล้วผู้หญิงคนนั้นตั้งครรภ์ อาจเกิดจากความผิดพลาดของอุปกรณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ จากการสำรวจผู้หญิง 1,166 รายที่ใช้อุปกรณ์ตรวจตั้งครรภ์ พบว่า ร้อยละ 5.5 ตั้งครรภ์จริง แต่ผลตรวจจากชุดตรวจครรภ์บอกว่าไม่ท้อง

ในกรณีท้องจริงแต่ผลตรวจบอกว่าไม่ท้อง อาจมีสาเหตุมาจากการตรวจที่เร็วเกินไป การตรวจในวันแรกที่พบว่าประจำเดือนขาด ซึ่งฮอร์โมน hCG ยังไม่สูงพอที่จะทำให้ผล positive ในขณะที่หลายคนทำการตรวจแต่กลับไม่ได้รอนานพอจนผลตรวจขึ้นสองขีด ก็ทิ้งอุปกรณ์ตรวจลงถังขยะไปเสียก่อน จึงขอแนะนำว่าถ้าตรวจแล้วผลแสดงว่าไม่ท้อง แต่ยังมีความสงสัยอยู่ ก็ให้รออีกประมาณ 1 สัปดาห์ค่อยตรวจซ้ำอีกทีค่ะ

หรือบางทีอาจเป็นผลมาจากการดื่มน้ำมากไป ทำให้ปัสสาวะเจือจางจนไม่พบฮอร์โมน hCG ซึ่งโดยทั่วไปควรตรวจปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้า ขณะท้องว่าง อาการเครียดก็มีผลทำให้ฮอร์โมน hCG ถูกผลิตและขับออกมาทางปัสสาวะน้อย ผลตรวจจึงแสดงออกมาเพียงหนึ่งขีดด้วยเช่นกัน

ดังนั้น การท้องไม่รู้ตัว จึงเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ หากผู้หญิงคนนั้นไม่ใส่ใจการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จึงอยากแนะนำให้หมั่นสังเกตร่างกายของตนเองอย่างสม่ำเสมอ และหากไม่มั่นใจว่าใช้ชุดตรวจครรภ์ แล้วอาจแสดงผลไม่ถูกต้อง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดดีกว่าค่ะ

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular