รถหัดเดิน จำเป็นหรือไม่ ช่วยให้เดินเร็วจริงหรือ?
รถหัดเดิน เป็นอุปกรณ์ที่นิยมของคุณพ่อคุณแม่ในสมัยก่อนมาก เพราะมีความเชื่อที่ว่า การให้ลูกได้อยู่ในรถหัดเดิน แล้วขาลูกได้ไถพื้นไปมา เคลื่อนไหวไปพร้อมกับล้อรถที่หมุนไป จะทำให้ลูกนั้นสามารถเดินได้เร็วขึ้น เพราะกล้ามเนื้อขาจะแข็งแรงไว ช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านการเดินได้ ซึ่งความเชื่อเหล่านี้จะถูกต้องหรือไม่ เรามาดูกันค่ะ
คำถาม : รถหัดเดินทำให้เดินเร็วได้จริงหรือ และจำเป็นต้องมีหรือไม่ ?
คำตอบ : ไม่จริงค่ะ รถหัดเดินทำให้เด็กเดินได้ตามธรรมชาติช้าลง แถมยังเสี่ยงต่ออุบัติเหตุอีกด้วย
เด็กเล็กที่อยู่ในรถหัดเดินเวลาจะเคลื่อนที่ไป ก็จะใช้ปลายเท้าจิกลงไปที่พื้นและไถตัวไปข้างหน้า แต่โดยปกติแล้วตามธรรมชาติเวลาเด็กเริ่มเดินจริงตามกลไกการเดินที่ถูกต้องจะใช้ส้นเท้าลงก่อน ดังนั้นเด็กที่อยู่ในรถหัดเดิน นาน ๆหลายชั่วโมงต่อวัน เมื่อเริ่มตั้งไข่ได้ดีแล้วจะก้าวเดิน เด็กจะใช้ปลายเท้าจิกลงพื้นเหมือนตอนอยู่ในรถหัดเดินซึ่งจะทำให้เดินไม่ได้ หรือเดินเป๋ เพราะใช้ปลายเท้าในการเดิน
ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้ลูกอยู่ในรถหัดเดินนานหลายชั่วโมงต่อวันจะส่งผลให้ลูกเดินได้ช้ากว่าเด็กที่หัดเดินเองโดยไม่ใช้รถหัดเดินค่ะ
ในสิงคโปร์มีการวิจัยในเด็ก 185 คน พบว่าร้อยละ 10 ของเด็กที่ใช้รถหัดเดินเป็นประจำจะมีพัฒนาการ ด้านการเคลื่อนไหวช้ากว่าเด็กที่ไม่ได้ใช้รถหัดเดินอีกค่ะ
หากใช้รถหัดเดินด้วยความประมาท ใช้เป็นที่ขังเด็ก ปล่อยให้เด็กอยู่ในรถตามลำพัง ลืมใส่เบรก หรืออยู่ในพื้นที่ต่างระดับ บ้านที่มีหลายชั้น ไม่มีที่กั้น อาจทำให้เด็กตกจากที่สูง จนนำไปสู่การบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย หรืออาจถึงบาดเจ็บสาหัส เช่น กระดูกต้นคอบาดเจ็บ ศีรษะ และเลือดออกในสมองจะกระทั่งทำให้เสียชีวิตได้ หรืออุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายเลย คือ การที่รถหัดเดินเคลื่อนที่แล้วสะดุดสิ่งของทำให้เสียหลักล้ม หรือการที่รถหัดเดินเคลื่อนที่ไปชนกับขาโต๊ะที่มีสิ่งของวางอยู่อาจทำให้ของบนโต๊ะหล่นลงมาใส่เด็ก เป็นต้น
จากการวิจัยพบว่า หนึ่งในสามของเด็กที่ใช้รถหัดเดินจะเคยได้รับบาดเจ็บจากรถหัดเดิน แทบทั้งสิ้นค่ะ
ในประเทศแคนาดา ออสเตรเลีย และบางรัฐในสหรัฐอเมริกาได้มีกฎหมายห้าม มิให้จำหน่ายรถหัดเดินแล้ว ขณะที่บางรัฐยังคงให้จำหน่ายได้ แต่ต้องมีคำเตือนอันตรายแก่ผู้ซื้อ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ