เชื่อว่าคุณแม่ทุกคนต้องเคยได้ยินคำแนะนำจากใครต่อใครหลาย ๆ คนในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ ที่ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “กินปลาเยอะๆ สิ ลูกจะได้ฉลาด” และคุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ก็จะยอมรับและปฏิบัติตามแต่โดยดี เพราะไม่ว่าใคร ก็ล้วนอยากให้ลูกมีสติปัญญาที่ดีเฉลียวฉลาดกันทุกคน
กินปลาแล้วจะทำให้ลูกในครรภ์ฉลาดจริงหรือ?
การรับประทานปลาในปริมาณที่มากเพียงพอในช่วงตั้งครรภ์ ถือว่าเป็นสิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรกระทำค่ะ เพราะในปลาจะมีปริมาณโปรตีนที่สูง และ มีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่จำเป็นต่อร่างกายอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่ง โปรตีน และ ไขมัน เป็นสิ่งที่จำเป็นที่ช่วยในการพัฒนาสมองและอวัยวะต่าง ๆ ของลูกน้อยในครรภ์ของคุณแม่
เนื้อสมองของลูกน้อยมีองค์ประกอบเป็นไขมันโดยเฉพาะกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวถึงร้อยละ 60 กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ความสำคัญต่อพัฒนาการสมองของลูกน้อยในครรภ์ คือ กรดไขมันที่มีชื่อว่า DHA ซึ่งมีมากในปลาทะเล และ สาหร่ายทะเลเป็นต้น
ร้อยละ 10 ของไขมันในสมองนั้นเป็น DHA ซึ่งการสะสมของ DHA จะเริ่มตั้งแต่อายุครรภ์ ประมาณ 6 เดือนและสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมากกว่าตอนที่ลูกอยู่ในท้องประมาณ 30 เท่าเมื่อถึงอายุ 2 ขวบ นอกจากนี้ DHA ยังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของจอประสาทตา ซึ่งทำหน้าที่ในการมองเห็นอีกด้วย
ดังนั้นการที่คุณแม่ตั้งครรภ์รับประทานปลาทะเล ในปริมาณที่มากเพียงพอ จะทำให้ร่างกายของคุณแม่ได้รับสารอาหารที่สำคัญต่อการสร้างสมองของลูก จึงนับว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกฉลาดได้ แต่ลูกจะฉลาดหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยรวมกัน ทั้งเรื่องพันธุกรรม ภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์และการคลอด การเลี้ยงดูเอาใจใส่หลังคลอด การรับประทานนมแม่ เป็นต้น
เรื่องอืนๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ