แบบไหนที่เรียกว่า เจ็บท้องเตือน (เจ็บท้องหลอก) หรือ เจ็บท้องจริง
เมื่อการตั้งครรภ์เดินทางมาถึงช่วงประมาณ สัปดาห์ที่ 28 เป็นต้นไป คุณแม่หลายท่านมักจะพบกับอาการเจ็บท้องเป็นระยะ ๆ โดยที่คุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ มักมีความกังวลใจกับอาการเจ็บท้องที่เกิดขึ้น จนต้องรีบไปพบแพทย์ เพราะคิดว่าตัวเองคงจะคลอดแล้ว แต่พอพบแพทย์ทีไร แพทย์มักบอกให้กลับมาที่บ้านทุกที เพราะนั่นยังไม่ใช่อาการของคนใกล้คลอด เป็นแค่อาการ เจ็บท้องหลอก (เจ็บท้องเตือน)เท่านั้น แล้วเจ็บท้องเตือน (เจ็บท้องหลอก) กับ เจ็บท้องจริง ต่างกันอย่างไรล่ะ
อาการเจ็บท้องเตือน หรือเรียกอีกอย่างว่า เจ็บท้องหลอก มักจะมีอาการเจ็บบริเวณช่องท้อง จะเกิดขึ้นได้ในช่วงของการตั้งครรภ์ตั้งแต่ 28 สัปดาห์เป็นต้นไป เนื่องจากมดลูกบีบตัวเพื่อเตรียมตัวสำหรับการคลอด มดลูกจะมีการบีบตัวเป็นระยะเพื่อให้มดลูกแข็งแรงเมื่อถึงวันคลอด คุณแม่ตั้งครรภ์ท่านใดที่ไม่เคยมีอาการเจ็บท้องเตือน(เจ็บท้องหลอก) เมื่อเข้าสู่การคลอดจะใช้เวลาในการคลอดนานกว่าคนที่มีอาการเจ็บท้องเตือน (เจ็บท้องหลอก)
ระยะเวลาการเจ็บท้องเตือน (เจ็บท้องหลอก)จะไม่แน่นอน เดี๋ยวถี่เดี๋ยวห่าง มีอาการเจ็บท้องมากบ้างน้อยบ้างไม่สม่ำเสมอ บางรายก็เจ็บติด ๆ กันหลายครั้งแล้วก็หยุดเจ็บ ถ้าลุกขึ้นเดินหรือเคลื่อนไหวแล้วจะดีขึ้น ไม่มีเลือดหรือมูกปนเลือดออกมาจากช่องคลอด
วิธีการดูแลตัวเองเมื่อมีอาการเจ็บท้องเตือน (เจ็บท้องหลอก)
- ควรหลีกเลี่่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก ๆ
- เปลี่ยนท่านนอนเป็นท่านอนตะแคงซ้าย
- ควรดื่มน้ำบ้างเพราะการขาดน้ำนั้นจะส่งผลให้มีอาการเจ็บเตือนถี่ขึ้น
- ให้ปัสสาวะบ่อย ๆ เพราะหากคุณแม่อั้นปัสสาวะเอาไว้จะเป็นการกระตุ้นให้เจ็บท้องเตือนบ่อย
- พยายามฝึกกำหนดลมหายใจเข้าออกยาว ๆ ลึก ๆ ช้า ๆ จะช่วยลดอาการเจ็บเตือน
ส่วนอาการเจ็บท้องจริง มักเกิดขึ้นในการตั้งครรภ์ตั้งแต่ 37 สัปดาห์ขึ้นไป มีอาการเจ็บอย่างสม่ำเสมอ รู้สึกหน่วง ๆ บริเวณหัวเหน่ารู้สึกปวดหลัง และเจ็บถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ใน 1 ชั่วโมง เจ็บมากกว่า 4 ครั้ง ท้องแข็งตึง ถ้าเดินหรือเคลื่อนไหวจะเจ็บมากขึ้น ถ้ามีอาการเจ็บทุก ๆ 10 นาทีและมีมูกเลือดร่วมกับน้ำเดินออกมา ก็ให้รีบไปโรงพยาบาล เพื่อพบแพทย์และเตรียมการคลอดได้แล้วค่ะคราวนี้คุณแม่ได้เห็นหน้าลูกน้อยแน่นอนค่ะ 😀
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ