จากเหตุการณ์ที่เด็กหญิงชั้น ป.5 เสียชีวิต 2 คน โดยมีผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งว่า เป็นการถูกเพื่อนที่เป็นเด็กชายวัย 11 ปี แกล้งถีบจนพลัดตกลงไปในคลองประเวศบุรีรมย์ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา
ในวันนี้ เวลา 14.00 น. ที่ สน.พระโขนง พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญศิลป์ ผกก.สน.พระโขนง พ.ต.ต.สำเนียง โสธร สว.(สอบสวน) สน.พระโขนง เจ้าของคดี ได้เชิญตัวผู้ปกครองของ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน หลังจาก ด.ช.เอ ก่อเหตุใช้เท้าถีบเพื่อนนักเรียนหญิง 2 คน ตกน้ำเสียชีวิต โดยมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเข้าร่วมในการสอบสวนครั้งนี้ด้วย
ด้าน พ.ต.อ.นิพนธ์ เปิดเผยว่า ได้เรียกทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งพยานแวดล้อมที่อยู่ในจุดเกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง มาให้ถ้อยคำ โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมกันสอบปากคำ
โดยล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. ภายหลังจากการสอบปากคำกว่า 3 ชม. พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญศิลป์ ผกก.สน.พระโขนง เปิดเผยว่า ด.ช.เอ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ถีบเด็กหญิงทั้ง 2 เสียชีวิต ได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าในขณะกำลังเดินเข้าหาเด็กหญิงทั้งสอง เด็กทั้งคู่ได้กระโดดลงน้ำโดยไม่มีสาเหตุ ส่วนที่กล่าวหาว่า ด.ช.เอ เหยียบมือเด็กหญิงทั้ง 2 คน ขณะตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งนั้น ด.ช.เอ ให้การปฏิเสธด้วยเช่นกันว่าไม่ได้ทำเช่นนั้นเลย
พ.ต.อ.นิพนธ์ กล่าวอีกว่า หลังจากพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่จากสหวิชาชีพ พนักงานอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา รวมทั้งผู้ปกครองได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ 3 ปาก โดยทั้ง 3 ปากให้การตรงกันว่า ด.ช.เอ เป็นคนถีบเด็กหญิงทั้ง 2 ลงน้ำ และเหยียบที่มือในช่วงเด็กหญิงทั้ง 2 พยายามขึ้นฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ ด.ช.เอ ในข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนส่งตัวไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลางต่อไป
ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี กล่าวเปิดเผยว่าได้รับการติดต่อจากนาย นายปิยปวัต อายุ 45 ปี พ่อของน้องเมย์ ด.ญ.วัย 11 ขวบ ประสานขอความช่วยเหลือเนื่องจากทางครอบครัวมีฐานะยากจน เบื้องต้น ได้สอบถามทราบว่าคดีความดำเนินการเอาผิดกับผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ทางครอบครัวประสบปัญหาเรื่องการเงิน จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทางด้านกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้ความช่วยเหลือ อีกทั้งทางด้านมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี จะได้ดำเนินการช่วยเหลือเรื่องพิธีงานศพ และจะได้เดินทางเข้าร่วมพิธีในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้
ที่มา: คมชัดลึก
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ