เด็ก ๆ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ พูดได้แล้ว หรือยังพูดไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรต้องสังเกตอาการลูกให้ได้ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ อย่ารอจนกว่าลูกจะเอ่ยปาก เพราะเรื่องบางอย่างต้องสังเกต และรีบแก้ปัญหาทันทีก่อนสายเกินไปค่ะ
12 อาการของลูก ที่คุณไม่ควรละเลย
1.ลูกดูเครียด ซึม
อาจจะไม่มีอาการไข้ขึ้นหรือไม่สบายให้เห็น แต่อาจจะแสดงทางสีหน้า หรือเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ตลอดเวลาถ้าเป็นแบบนี้ไม่ควรปล่อยผ่านไปค่ะ พาไปปรึกษาคุณหมอดีกว่า
2.มีไข้สูง
อุณหภูมิปกติของเด็กจะอยู่ที่ 36-37.5 องศาเซลเซียส สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือนหากมีอุณหภูมิอยู่ที่ 37.6-38.4 องศาเซลเซียส ถือว่าไข้ขึ้นสูง ส่วนเด็กอายุสูงกว่า 6 เดือนขึ้นไปถ้าเกิน 38.5 องศาเซลเซียสถือว่าไข้ขึ้นสูง ต้องหาทางลดไข้และรีบพาไปหาหมอค่ะ
3.มีไข้ติดกันนาน 3 วันขึ้นไป
โดยกินยาและเช็ดตัวแล้วอาการไม่ดีขึ้น ต้องรีบพาไปหาหมอเช่นกันค่ะ
4.เป็นไข้ และมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย
เช่น ปวดหัว มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ อาการแบบนี้ต้องรีบหาหมอค่ะ
5.มีผื่นแดงขึ้นตามตัว และมีอาการลุกลามใหญ่ขึ้น
หรือ มีอาการบวมแดงตรงบริเวณที่ผื่นขึ้น และมีอาการหายใจไม่ออก หายใจติดขัด เป็นต้น
6.มีตุ่มขึ้นตามตัวเหมือนลักษณะผิดปกติ
หรือมีตุ่มลักษณะเหมือนไฝที่ไม่เคยมีขึ้นมาก่อนต้องรีบให้แพทย์ตรวจสอบด่วน เพราะอาจเกิดเป็นมะเร็งผิวหนังได้ค่ะ
7.ปวดท้องแบบกะทันหัน
หรืออาจปวดท้องด้านขวาล่างลงมาอาจเป็นอาการของไส้ติ่ง หรือถ้าปวดท้องแล้วมีอาเจียน อาจเกิดจากกระเพาะอาหารอักเสบ ยิ่งถ้ามีเลือดออก ต้องรีบพบแพทย์ทันที
8.ปวดหัว และอาเจียน
อาจเป็นอาการเริ่มต้นของไมเกรน แต่ถ้ามีอาการรุนแรงมากกว่านั้นอาจเกิดจากโรคอื่นให้รีบพบแพทย์เช่นกันค่ะ
9.ปัสสาวะลดลง ปากแห้ง กระหม่อมบุ๋ม อาเจียน ท้องเสีย
อาการเหล่านี้อาจเกิดจากอาการขาดน้ำ ต้องรีบพบแพทย์เช่นกันค่ะ
10.หน้าบวม ตัวบวม อาเจียน หรือคัน
อาการนี้อาจเกิดจากภูมิแพ้ค่ะ ถ้ารุนแรงมากต้องพบแพทย์นะคะ
11.เลือดออกมากเกินไป
ไม่ว่าแผลจะเล็กหรือใหญ่ถ้าห้ามเลือดแล้ว เลือดยังออกไม่หยุดให้รีบหาหมอด่วนค่ะ
12.ริมฝีปากซีดจาง เขียวคล้ำ หายใจติดขัด หายใจทางปาก
อาจเป็นอาการแพ้อะไรบางอย่าง หรือ อาจเกิดจากโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ หรือ โรคปอด
อาการของลูก ที่กล่าวมาด้านบน คุณพ่อหรือคุณแม่ไม่ควรละเลยเป็นอันขาด เพราะอาการบางอย่างนั้นถือได้ว่าเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงต่าง ๆ ทั้งสิ้นค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ