คงเป็นเรื่องที่น่าตกใจและเสียใจอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ หากคุณแม่ที่คอยเฝ้ารอการเกิดมา และทะนุถนอมลูกน้อยในครรภ์เป็นอย่างดี แล้วก็ต้องมาประสบปัญหาภาวะความผิดปกติในครรภ์ จนทำให้ต้องยุติการตั้งครรภ์นั้น ๆ ไป ถือเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากจริง ๆ ค่ะ
การยุติการตั้งครรภ์ แพทย์จะกระทำได้ต่อเมื่อวินิจฉัยแล้วเห็นสมควร มีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ
- เมื่อการตั้งครรภ์นั้นมีผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพและร่างกายของแม่ หรือแม่ป่วยด้วยโรคที่ส่งผลให้ลูกมีความผิดปกติในระหว่างตั้งครรภ์
- เมื่อการตั้งครรภ์นั้นมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของแม่(กรณีนี้ต้องมีการรับรองหรือเห็นชอบจากแพทย์ด้านจิตเวชด้วย) เช่น ในกรณีที่แม่มีความเครียดรุนแรง เมื่อตรวจพบว่าทารกในครรภ์มีความเสี่ยงที่จะพิการสูง หรือเสี่ยงที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับพันธุกรรมร้ายแรง ก็ถือว่าการตั้งครรภ์นั้นมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของแม่ค่ะ
- ตั้งครรภ์ในกรณีที่ผู้หญิงถูกข่มขืนกระทำชำเรา
- ทารกที่มีความพิการร้ายแรงที่ไม่สามารถมีชีวิตรอด หรือรอด หรือไม่สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ อย่างเช่น ดาวน์ซินโดรม หรือ ธาลัสซีเมีย ซึ่งเด็กสามารถมีชีวิตอยู่ได้ แต่คุณภาพชีวิตของเด็กจะไม่ดี อายุขัยโดยรวมสั้น และเป็นภาระของครอบครัว โดยมากแพทย์จะทำการยุติการตั้งครรภ์ได้จนถึงอายุครรภ์ 24 สัปดาห์ค่ะ ถ้าครรภ์แก่กว่านั้นแพทย์จะไม่ทำให้ เพราะเด็กสามารถมีชีวิตรอดแล้ว
- กรณีที่แพทย์ตรวจพบความพิการ หรือความผิดปกติที่รุนแรงมาก ๆ ของทารกในครรภ์ที่ไม่ว่าจะคลอดตอนไหน เด็กก็ไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ หากตรวจพบเจอเมื่อไหร่ แพทย์ก็สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ค่ะ
- ในกรณีที่คุณแม่ป่วยเป็นโรคหัดเยอรมันในระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก ๆ ซึ่งมีผลทำให้ทารกในครรภ์พิการ หรือเจริญเติบโตผิดปกติ แพทย์ก็จะยุติการตั้งครรภ์ เช่นเดียวกันค่ะ
- กรณีที่เป็นมะเร็งปากมดลูกขณะตั้งครรภ์ คุณหมอจะทำการวินิจฉัยโดยการดูว่าอะไรพัฒนาการไปเร็วกว่ากัน ถ้าเป็นระยะเวลาที่รุนแรงกำลังจะลุกลาม คุณหมอจะยุติการตั้งครรภ์เพื่อจัดการมะเร็งก่อนค่ะ
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ