หนูน้อยวัยขวบเศษต้องมาเสียชีวิตเพราะความขี้เมาของแม่ ที่ปล่อยให้ลูกตกเปลหลายครั้ง และไม่ยอมพาไปหาหมอจนสุดท้ายเด็กมีอาการช้ำในนอนแน่นิ่ง เสียชีวิตคาห้องพักย่านบางพลี
เรื่องราวสลดในครั้งนี้เกิดขึ้นกับหนูน้อยเพศหญิงวัยขวบเศษ ชื่อเล่นว่าน้อง ลูกศร โดยมีนายอำพา ท่อนทอง อายุ 46 ปี ผู้เป็นพ่อ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนเองมีอาชีพขับรถบรรทุกส่งสินค้า โดยมีบุตรกับภรรยาสาววัย 30 ปี ทั้งหมด 3 คน ซึ่งบุตรทั้งหมดจะพักอาศัยอยู่ในห้องพักกับภรรยาที่ไม่ได้ทำงานอะไร และมักดื่มสุราเป็นประจำ ซึ่งที่ผ่านมาตนเองไม่ค่อยได้กลับห้องพักเนื่องจากต้องขับรถ จึงปล่อยให้บุตรอยู่กับภรรยาเพียงลำพัง จนกระทั่งช่วงเช้ากลับมาถึงห้องพักพบว่าน้องลูกศรนอนแน่นิ่งไปและตามร่างกายมีรอยเขียวช้ำเมื่อเขย่าตัวก็ไม่ตอบสนองแต่อย่างใดตนจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
หลังจากที่นำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 ด้วยอาการหมดสติไม่รู้สึกตัว แถมบริเวณตามตัวพบว่ามีรอยเขียวซ้ำทั่วร่างกายโดยเฉพาะศีรษะและใบหน้า แพทย์พยามปั๊มหัวใจยื้อชีวิตแต่ไม่รอดชีวิตในที่สุด โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้นำร่างของน้องลูกศรวัยขวบเศษ ส่งให้แพทย์ รพ.บางพลี และพนักงานสอบสวนสภ.บางพลีร่วมกันชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้น ซึ่งจากการตรวจสอบสภาพศพของน้องลูกศรวัยขวบเศษนี้ พบว่ามีบาดแผลถลอกตามแขนขาและแผ่นหลัง ขณะที่ร่างกาย ใบหน้า และศีรษะ พบว่ามีรอยเขียวช้ำทั่วร่างกาย ขณะที่สอบถามมารดาอ้างเพียงว่าตกจากโซฟาเท่านั้น
นายอำพา ยังเล่าให้ฟังต่ออีกว่าที่ผ่านมาน้องลูกศรมักเกิดอุบัติเหตุจากการตกเปล ที่ผูกใต้ต้นไม้ด้วยความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ทำให้ร่างตกมากระแทกพื้นบ่อยครั้ง ตนเองขับรถอยู่นอกพื้นที่ก็ได้แต่โอนเงินมาให้ภรรยา เพื่อให้พาลูกสาวไปหาหมอตรวจเช็คร่างกาย แต่ภรรยากลับไม่พาไปและนำเงินไปซื้อสุราดื่มจนหมดพอลูกสาวไม่สบายทีก็ซื้อแต่ยาพารามาให้ทานจนกระทั่งมาเกิดเหตุเศร้าในครั้งนี้
ด้านนาย สมชาย อินทร์ขำ อายุ 33 ปี เพื่อนบ้านออกมาระบุว่าตนเองเห็นสภาพความเป็นอยู่ของเด็กทั้งสามคนนี้มาโดยตลอดซึ่งที่ผ่านมาผู้เป็นมารดาไม่เคยสนใจเลี้ยงดูบุตรทั้งสามคนเลยปล่อยให้อยู่ตามยถากรรมในห้องพักที่สกปรกอย่างมาก ปล่อยให้อดมือกินมื้อ ส่วนมารดาจะดื่มสุราเป็นประจำทุกวัน ตนเองและเพื่อนบ้านรายอื่นก็คอยแต่ดูแลเด็กๆ ห่างๆ ให้ข้าว ขนมทานบ้างพอสมควร ซึ่งวันพฤหัสที่ผ่านมาช่วงบ่ายตนจึงมารับน้องลูกศรไปที่บ้านพักเพื่อไปทานข้าวและเล่นกับเด็กๆ ที่ตนเองรับเลี้ยงไว้ในบ้านพักโดยปล่อยให้เล่นกันในบ้านพักซึ่งมีโซฟาอยู่กลางบ้าน ระหว่างที่ตนเองเดินไปปิดแก๊สในครัวหันมามองพบว่าน้องลูกศรปีนขึ้นไปนั่งบนโซฟาแล้วและทำท่าจะให้เพื่อนอุ้มจึงพลัดตกลงมาจากโซฟา แต่ไม่เป็นอะไรตนเองจึงพากลับมาส่งให้กับมารดา จนกระทั่งช่วงเย็นมารดาปล่อยให้ออกมาเล่นใต้ต้นไม้ที่มีเปลผูกไว้โดยนำน้องลูกศรไปไว้ในเปลและเกิดพลิกตกลงมากระแทกพื้นปูนอย่างจังแต่แม่ไม่ได้พาไปโรงพยาบาล จนกระทั่งมาทราบว่าน้องเสียชีวิตในวันนี้
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวทั้งบิดา มารดา และเพื่อนบ้านทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรแล้ว เพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งส่วนร่างน้องลูกศรได้มอบให้เจ้าหน้าที่นำตัวส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช รพ.ตร. เบื้องต้นสันนิฐานว่า “รอยเขียวช้ำ” อาจเกิดจากการที่เด็กพลัดตกจากเปลและโซฟาบ่อยครั้งแต่ไม่มีการนำตัวไปตรวจเช็คร่างกายจนทำให้เกิดการช้ำในจนกระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามยังไม่ได้สรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดคงต้องเรียกสอบปากคำอย่างละเอียดและรอผลการชันสูตรที่แน่ชัดจากนิติเวชว่าเกิดจากสาเหตุได้
ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ของสองพี่น้องที่เหลือเบื้องต้นจากการตรวจสภาพภายในห้องพักพบว่าไม่ถูกสุขลักษณะความสะอาดแต่อย่างใด จึงพูดคุยกับทางบิดาขอให้ส่งตัวเด็กทั้งสองไปเลี้ยงกับทางญาติที่ต่างจังหวัดเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเด็ก ๆ แต่หากพบว่ายังปล่อยให้อยู่ในห้องพักแห่งนี้ก็จะได้ประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าให้ความช่วยเหลือต่อไป
ที่มา: workpointtv
เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ