fbpx
Homeเรื่องน่ารู้ข่าว'ช่วยลูกผมด้วย' พ่อยอมนั่งคุกเข่าถือไม้ให้คนตีแลกเงิน เพื่อรักษาลูก 1 ขวบ

‘ช่วยลูกผมด้วย’ พ่อยอมนั่งคุกเข่าถือไม้ให้คนตีแลกเงิน เพื่อรักษาลูก 1 ขวบ

คุณพ่อชาวจีนท่านนี้นั่งคุกเข่าถือไม้อยู่ข้างถนน ร้องขอให้คนที่ผ่านไปมาหยิบไม้มาฟาดที่ตัวของเขา เป็นการแลกกับเงินบริจาค เพื่อนำเงินไปรักษาลูกชายที่กำลังจะตาบอด

โดยคุณพ่อสุดสิ้นหวังรายนี้มีชื่อว่า ฟาน ฟู้กุ่ย(Fan Fugui) มาจากเขตเขตฉงชิ่ง ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน นั่งคุกเข่าสวมเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว ท่ามกลางอากาศหนาว อยู่ที่ริมถนนในเมืองปักกิ่ง โดยในถือไม้ 1 ท่อน พร้อมกับป้ายข้อความที่ระบุว่า ช่วยหยิบไม้ท่อนนี้ตีลงไปที่ตัวเขา โดยคิดเงินครั้งละ 10 หยวน หรือราว 50 บาท เพื่อจะนำไปรักษาลูกชายวัย 1 ขวบ ที่ขณะนี้ป่วยหนักจนใกล้จะตาบอดเต็มที

ในป้ายยังเขียนไว้ว่า ฟาน หยู่หาง(Fan Yuhang) ลูกชายของเขาเกิดมาพร้อมกับโรคร้ายที่เกี่ยวกับดวงตา หากไม่เข้ารับการรักษาจะทำให้กลายเป็นคนตาบอด เขาจึงจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากกว่า 100,000 หยวน (ราว 515,000 บาท) ในการผ่าตัดรักษา แต่เขาจนปัญญาที่จะหาเงินได้มากขนาดนี้ได้ จึงต้องมานั่งขอความช่วยเหลือเช่นนี้ ซึ่งหากคิดตามวิธีดังกล่าว เขาจะต้องถูกตีทั้งหมดถึง 10,000 ครั้ง กว่าจะได้เงินครบตามจำนวนที่ต้องการ

คุณพ่อท่านนี้ได้วอนขอให้ผู้ที่มีจิตใจเมตตา ช่วยสงเคราะห์ตนและลูกชาย โดยได้เขียนเลขบัญชีและเบอร์โทรศัพท์ไว้ที่ป้ายด้วย ซึ่งก็มีผู้คนที่เดินผ่านไปมาบริเวณนั้น ร่วมกันบริจาคเงินให้ แต่ก็ไม่มีใครหยิบไม้ตีคุณพ่อท่านนี้แต่อย่างใด

นายฟาน ได้บอกกับนักข่าวที่มาทำข่าวว่า คุณคิดว่าผมสนุกกับการนั่งคุกเข่าข้างถนนเหรอ ? ผมก็อยากมีชีวิตที่ปกติแบบคนทั่วไป แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะผมและภรรยาต้องหาเงินมารักษาลูกของเรา

ด้านคุณหมอบอกว่า เด็กชายฟาน หยู่หาง มีอาการซับซ้อนจากโรคหลายชนิดด้วยกัน อันได้แก่ ขั้วประสาทตาซีดฝ่อ โรคไร้ม่านตา และต้อหินที่พบตั้งแต่เกิด ทางแพทย์จึงไม่สามารถรับรองได้ว่า หลังจากเข้ารับการรักษาแล้ว ดวงตาของเด็กคนนี้จะสามารถมองเห็นได้เป็นปกติร้อยเปอร์เซนต์

นายฟาน ทราบถึงเรื่องนี้ดี แต่อย่างไรก็จะไม่ยอมแพ้ พร้อมกล่าวว่า: “ผมไม่อยากให้ลูกตาบอด เมื่อโตขึ้นผมอยากให้เขาสามารถดูแลตัวเองได้”

โดยหลังจากภาพและเรื่องราวของนายฟานถูกนำไปเสนอในสื่อของจีน ก็มีผู้ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือไปแล้วกว่า 50,000 หยวน (ราว 257,000 บาท) ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า เพียงพอสำหรับการพาลูกชายไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้ว พร้อมกับบอกว่า จะพยายามหาวิธีอื่นที่เหมาะสมกว่านี้ เพื่อหาเงินมาช่วยรักษาลูกชาย

ที่มา: dailymail.co.uk

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular