fbpx
Homeเรื่องน่ารู้ข่าวแม่ใจร้าย! ทิ้งทารกแรกเกิดในห้องน้ำวัด ร้องจนอ่อนแรง ชาวบ้านช่วยทัน

แม่ใจร้าย! ทิ้งทารกแรกเกิดในห้องน้ำวัด ร้องจนอ่อนแรง ชาวบ้านช่วยทัน

เกิดเหตุสลดใจขึ้นอีกแล้วค่ะ เมื่อมีชาวบ้านพบทารกแรกเกิด คาดว่าพึ่งคลอดได้ไม่เกิน 3 วัน ถูกทิ้งในห้องน้ำวัด บริเวณศาลาการเปรียญ จึงช่วยนำส่งโรงพยาบาลได้อย่างปลอดภัย คาดว่าคนที่ นำทารกน้อยมาทิ้ง คงจะเป็นแม่เด็กที่ไม่พร้อมเลี้ยงลูก

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 59 ในที่เกิดเหตุพบ เด็กทารกวัยแรกเกิด เพศหญิง นอนอยู่ที่พื้นในห้องน้ำข้างโถชักโครก สภาพเปลือยกายไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว สายสะดือยังติดอยู่ที่ท้อง จากการตรวจสอบพบว่าทารกยังมีชีวิตอยู่ ชาวบ้านและพระภิกษุกำลังช่วยกันเอาผ้ามาห่อ ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพรีบนำทารกส่งโรงพยาบาลศรีมโหสถโดยด่วน เนื่องจากเด็กเริ่มมีอาการอ่อนแรงแล้ว

ทารกแรกเกิดถูกทิ้งในห้องน้ำวัด

ทารกแรกเกิดถูกทิ้งในห้องน้ำวัด

สอบถามเบื้องต้นจากชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า มีเพื่อนบ้านวิ่งมาบอกว่า ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องอยู่ภายในวัด ตอนแรกคิดว่าลูกแมว จึงช่วยกันค้นหากระทั่งมาพบอยู่ในห้องน้ำ และเมื่อวานนี้ที่วัดมีงานบวช เพิ่งปิดศาลาไปช่วงค่ำ คาดว่าทารกถูกนำมาทิ้งประมาณกลางดึก ซึ่งศาลาการเปรียญมี 2 ชั้น ชั้นล่างใส่กุญแจปิดหมด แต่พบว่าหน้าต่างด้านริมถูกเปิดออกเพื่อนำทารกมาทิ้ง

ขณะที่ พระลูกวัด เปิดเผยว่า ทารกดังกล่าวที่ถูกทิ้งในห้องน้ำคาดว่าน่าจะมีคนนำมาทิ้งในช่วงกลางคืนประมาณ 4-5 ทุ่ม เพราะสุนัขในวัดเห่ามาก แต่ไม่ได้ลงมาดู จนกระทั่งเช้ามีโยมมาแจ้งว่าได้ยินเสียงเด็กร้อง และพบว่ามีคนนำทารกมาทิ้งไว้ในห้องน้ำ

ทารกแรกเกิดถูกทิ้ง

ล่าสุดทางด้าน พญ.อภิญญา ทรัพย์ประเสริฐ แพทย์เวรประจำห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลศรีมโหสถ เปิดเผยว่า จากการตรวจร่างกายของเด็กทารกคนดังกล่าวพบว่าอุณหภูมิร่างกายต่ำ ไม่มีร่องการถูกทำร้าย ระดับน้ำตาลปกติ และคาดว่าน่าจะคลอดมาไม่เกิน 3 วัน จึงนำเด็กทารกเข้าตู้อบ เพื่อปรับอุณหภูมิในร่างกายอยู่ครู่หนึ่งจนอาการเริ่มดีขึ้น และส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อตรวจรักษาเฉพาะทางต่อไปค่ะ

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นแม่ที่ไม่มีความพร้อมคลอดลูกแล้วนำมาทิ้ง หรืออาจจะเป็นคนงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามา แต่ไม่กล้าไปโรงพยาบาลเกรงกลัวความผิด ซึ่งจะทำการสอบสวนหาผู้เห็นเหตุการณ์ และให้แพทย์ตรวจดีเอ็นเอเพื่อหาผู้ให้กำเนิดและติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

ที่มา: MorningNewsTV3

เรื่องอื่นๆที่เราแนะนำสำหรับคุณ

RELATED ARTICLES
- Advertisment -

Most Popular